สร้าง Six Pack ด้วยมือแพทย์

สร้าง Six Pack ด้วยมือแพทย์

Highlight:

  • ซิกแพคเป็นกล้ามเนื้อหน้าท้องที่มีกันทุกคน แต่ถูกบดบังด้วยชั้นไขมัน ดังนั้นการจะมีซิกแพคต้องลดไขมันบริเวณหน้าท้อง ออกกำลังกายหน้าท้องเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและใหญ่ขึ้น รับประทานอาหารให้พอดีกับที่ร่างกายต้องการ ลดอาหารไขมันสูง และคาร์โบไฮเดรท เพิ่มโปรตีนเพื่อช่วยซ่อมแซมและเพิ่มกล้ามเนื้อที่ถูกทำลาย  
  • การผ่าตัดสร้างซิกแพค คือการลดไขมันเฉพาะส่วนด้วยการใช้ความเย็นสลายไขมัน ปัจจุบันได้พัฒนาเครื่องดูดไขมันให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ร่วมกับความสามารถและความเชี่ยวชาญของแพทย์ การสร้างซิกแพคด้วยแพทย์จึงมีความสวยงามและดูธรรมชาติมากขึ้น 

การมีซิกแพคเป็นหนึ่งในเป้าหมายของคนรักการออกกำลังกาย อยากให้รูปร่างดี ดูฟิตเฟิร์ม แต่หลายคนพยายามทั้งคุมอาหารและออกกำลังอย่างหนัก แต่กลับไปไม่ถึงเป้าหมาย   

ด้วยเทคโนโลยีและความรู้ความชำนาญของศัลยแพทย์ในปัจจุบัน สามารถสร้างซิกแพคได้ด้วยการผ่าตัด โดยไม่ต้องใส่สารแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย แต่เป็นซิกแพคที่เกิดจากร่างกายของตัวเองจริงๆ  

ซิกแพค (Six Pack) คืออะไร

ซิกแพค (Six Pack) คือกล้ามเนื้อหน้าท้อง (Rectus absominis-abs) ซึ่งมีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยแต่ละคนมีจำนวนกล้ามเนื้อหน้าท้องไม่เท่ากัน ตั้งแต่ 4-8 ลูก ส่วนใหญ่มักพบ 6 ลูก เรียงคู่กันข้างละ 3 ลูก  จึงเรียกว่าซิกแพค   

แม้จะมีกล้ามเนื้อหน้าท้องเช่นเดียวกัน แต่หน้าท้องของผู้หญิงและผู้ชายมีความแตกต่างกัน ซิกแพคของผู้หญิงที่ออกกำลังกายมากๆ อาจมองเห็นเป็นเพียงแนวเส้น (Sexy Line หรือ ร่อง 11) ไม่เป็นลักษณะลูกๆ เหมือนผู้ชาย ที่เป็นเช่นนี้เพราะฮอร์โมนเพศหญิงกักเก็บไขมันมากกว่า ส่งผลให้เห็นซิกแพคไม่ชัด นอกจากนี้การมีซิกแพคแบบชัดเจนยังอาจดูแข็งแกร่งและไม่อ่อนหวานแบบผู้หญิง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับความพึงพอใจของแต่ละคนด้วยเช่นกัน  

การสร้างซิกแพค (Six Pack)

เนื่องจากซิกแพคเป็นกล้ามเนื้อหน้าท้องที่มีกันทุกคน แต่ถูกบดบังด้วยชั้นไขมัน ดังนั้นการจะมีซิกแพคอันดับแรกคือการลดไขมันบริเวณหน้าท้อง จากนั้นเป็นการออกกำลังกายหน้าท้องเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและใหญ่ขึ้น ซึ่งการลดไขมันจำเป็นต้องรับประทานอาหารให้พอดีกับที่ร่างกายต้องการ ลดอาหารไขมันสูง และคาร์โบไฮเดรท เพิ่มโปรตีนเพื่อช่วยซ่อมแซมและเพิ่มกล้ามเนื้อที่ถูกทำลายจากการออกกำลังกล้ามเนื้อหน้าท้อง   

การอดอาหารอย่างเดียวเพื่อลดไขมัน อาจทำให้มองเห็นซิกแพคได้ แต่ดูไม่สวย ไม่แข็งแรง เป็นความผอมแห้งมากกว่าการมีสุขภาพดี  นอกจากวินัยในการรับประทานอาหารและออกกำลังกายแล้ว การจะมีซิกแพคอาจต้องอาศัยโชคช่วย เนื่องจากการลดไขมันในร่างกายของแต่ละคนต่างกัน  ไม่สามารถสั่งให้ร่างกายลดเฉพาะไขมันบริเวณหน้าท้อง หรือเพียงส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายได้  

สร้าง Six Pack ด้วยมือแพทย์

การผ่าตัดสร้างซิกแพค ก็คือการลดไขมันเฉพาะส่วนด้วยการใช้ความเย็นสลายไขมัน ที่มีมาอย่างกว้างขวางระยะหนึ่งแล้ว แต่ปัจจุบันได้พัฒนาเครื่องดูดไขมันให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ร่วมกับความสามารถและความเชี่ยวชาญของแพทย์ การสร้างซิกแพคด้วยแพทย์จึงมีความสวยงามและดูธรรมชาติมากขึ้น  

  • การดูดไขมันสร้างซิกแพค 

    การดูดไขมันหน้าท้อง มีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน โดยแพทย์ต้องวาดตามร่องรอยกล้ามเนื้อ   จากนั้นกำหนดตำแหน่งของแผล ซึ่งแผลที่เกิดจากการดูดไขมันมีขนาดเล็ก ทำให้หลังทำซิกแพคแล้ว มีรอยแผลเป็นขนาดเล็กมากหรืออาจมองไม่เห็นเลย  
    การสร้างซิกแพคด้วยการดูดไขมัน สามารถทำได้ด้วยการฉีดยาชาเฉพาะที่ หลังจากทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้ทันที หรือใช้วิธีวางยาสลบ ซึ่งจะช่วยลดความวิตกกังวลของผู้ที่เข้ารับการผ่าตัด  แต่อาจต้องพักฟื้นจากผลของยาสลบในโรงพยาบาล 1 วัน หรือตามแพทย์พิจารณา ทั้งนี้การจะเลือกใช้วิธีใดนั้นขึ้นอยู่กับความปลอดภัยและการพิจารณาของแพทย์เป็นหลัก 
    หลังการทำซิกแพค แพทย์จะมีอุปกรณ์พยุงเอวเพื่อใช้รัดรอบเอวตลอดเวลา (ยกเว้นตอนอาบน้ำ) หรือตามที่แต่ละคนจะทนได้ เพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ดูดไขมันกระชับและได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ   
    นอกจากความเชี่ยวชาญของแพทย์แล้ว  รูปร่าง  พันธุกรรม และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ก็มีผลให้การดูดไขมันเพื่อสร้างซิกแพคอาจได้ภาพที่แตกต่างกัน หากต้องการให้ซิกแพคสวยงามและคงอยู่ รวมถึงไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ ควรมีวินัยในการดูแลตนเอง ทั้งเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย การนอนหลับพักผ่อน เพราะการใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ทั้งทางรูปร่างและสุขภาพได้ดีอีกด้วย 

นอกจากหน้าท้องแล้วส่วนอื่น ๆ ก็สามารถสร้างซิกแพคได้เช่นกัน อาทิ ต้นแขน หลัง ต้นขา สะโพก 

ใครสามารถทำศัลยกรรมซิกแพคได้บ้าง

คนทุกคน ทั้งผู้หญิงและผู้ชายสามารถเข้ารับการดูดไขมันเพื่อสร้างซิกแพค โดยควรมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่เริ่มไม่มีความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และสิ่งสำคัญต้องไม่มีโรคประจำตัว สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีความคาดหวังอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ไม่คาดหวังมากเกินไปแบบไม่สมเหตุสมผล

นอกจากนี้ ลักษณะผิวของผู้ที่ต้องการดูดไขมันสร้างซิกแพค ก็มีความสำคัญ หากผิวดีมีความยืดหยุ่น ก็จะได้ซิกแพคที่ดูสุขภาพดีกว่าผู้ที่มีผิวหย่อนยาน ทั้งนี้ขึ้นกับอายุ การรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย สำหรับคนอ้วนที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) มาก อาจต้องดูดไขมันบางส่วนก่อน อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอรับคำปรึกษาโดยตรงแล้วแต่กรณี

 แพทย์ผู้ให้คำปรึกษาจะสอบถามถึงจุดประสงค์ ความต้องการ และดูรายละเอียดอื่นๆ  บางกรณี แพทย์อาจขอให้ลดไขมันลงเล็กน้อย หรืออาจทำบางอย่างไม่ได้ หากผู้ที่เคยออกกำลังกายกล้ามท้องอยู่แล้ว การทำซิกแพค ปรับเพียงเล็กน้อยให้ดูชัดขึ้น ตามความพอใจที่แตกต่างกัน ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่มักอยากได้ซิกแพคใหญ่ๆ เห็นร่องชัดเจน ขณะที่ผู้หญิงต้องการเพียงแค่ร่อง  ให้ดูเหมือนออกกำลังกายเท่านั้น ซึ่งแพทย์ที่เชี่ยวชาญ จะสามารถดีไซน์การสร้างซิกแพค ได้เป็นรายบุคคล ตามลักษณะของกล้ามเนื้อ เพื่อให้สวยงามและดูเป็นธรรมชาติที่สุด

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการทำศัลยกรรมซิกแพค

ผู้ที่ต้องการผ่าตัดสร้างซิกแพคควรเตรียมตัว ดังนี้ 

  • ศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับซิกแพคและการผ่าตัดสร้างซิกแพค 
  • รักษาน้ำหนักให้คงที่ประมาณ  6-12 เดือนก่อนเข้ารับบริการผ่าตัด  
  • หยุดอาหารเสริม เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์   
  • หยุดสูบบุหรี่ 
  • หยุดยาจำพวกแอสไพริน ยาลดอาการอักเสบ หรือสมุนไพร เพราะอาจจะทำให้เลือดออกมากขึ้นได้ 

การดูแลหลังการผ่าตัดสร้างซิกแพค

  • กรณีใช้ยาชา สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ทันที  
  • กรณีใช้ยาสลบ สามารถกลับบ้านได้ตามคำแนะนำของแพทย์ 
  • ใส่ชุดช่วยพยุงที่ได้รับตลอดเวลา ยกเว้นตอนอาบน้ำ หรือใส่ให้นานที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เพราะการใส่ชุดช่วยพยุงจะช่วยลดอาการบวม และทำให้เห็นผลลัพธ์ได้เร็วขึ้น 
  • เนื่องจากแผลที่เกิดขึ้นจากการดูดไขมันมีขนาดเล็กมาก สามารถอาบน้ำได้ภายใน 1-2 วัน 
  • รอยช้ำที่เกิดจากการดูดไขมัน โดยปกติจะหายไปภายใน 10 วัน 
  • หลีกเหลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำเป็นเวลา 2 สัปดาห์  ห้ามทำกิจกรรมที่โดนน้ำ เช่น  ลงอ่างอาบน้ำ ว่ายน้ำ 
  • ระวังแผลกดทับ แม้แผลจะมีขนาดเล็กเพียง 1 เซนติเมตรก็ตาม 
  • สามารถออกกำลังกายเบาๆ ได้ ภายใน 2 สัปดาห์  
  • พบแพทย์เพื่อติดตามผลและตัดไหมตามนัด   
  • ซิกแพคที่ทำจะดูสวยและเป็นธรรมชาติภายใน 3 เดือน  

แม้การดูดไขมันจะมีแผลเล็กและสามารถกลับบ้านได้ทันที แต่ทุกการรักษาอาจพบภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น มีภาวะบวมน้ำ แผลสมานไม่ดี หากพบภาวะผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันที

หากมีการดูแลสุขภาพที่ดี ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม สม่ำเสมอและพักผ่อนอย่างเพียงพอ การผ่าตัดสร้างซิกแพคที่ดูสวยงามและเป็นธรรมชาติ จะสามารถอยู่ติดตัวไปได้ตลอด ไม่จำเป็นต้องกลับมาทำซ้ำ แต่ในกรณีที่ปล่อยตัวไม่ดูแลร่างกาย จนน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างมาก ก็สามารถกลับมาทำซ้ำได้

คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?