วิตามิน D กับคุณแม่ตั้งครรภ์ สำคัญอย่างไร

วิตามิน D กับคุณแม่ตั้งครรภ์ สำคัญอย่างไร

HIGHLIGHTS:

  • ภาวะขาดวิตามิน D พบบ่อยในหญิงตั้งครรภ์ที่รับประทานมังสวิรัติ คนที่ไม่ค่อยได้รับแสงแดด กลุ่มคนที่มีผิวคล้ำ
  • ภาวะขาดวิตามิน D ของในคุณแม่ตั้งครรภ์ อาจส่งผลให้เกิดกระดูกหักหรือผิดรูปได้ในทารกแรกเกิด ดังนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์กลุ่มสี่ยง จึงควรได้รับตรวจระดับวิตามิน D ในเลือด

ในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ หากมารดามีภาวะขาดวิตามิน D อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติของกระดูกของทารกในครรภ์ได้ เช่น โรคกระดูกอ่อนในเด็ก หรือ Rickets

Rickets คือ?

ภาวะที่มีความบกพร่องในการสะสมแร่ธาตุหรือการสะสมแคลเซียมในกระดูกระยะก่อนที่จะมีการปิดของแผ่นสร้างกระดูก เนื่องจากการขาดหรือความผิดปกติของกระบวนการสร้างและสลายวิตามินดี ฟอสฟอรัส หรือแคลเซียม ซึ่งอาจทำให้เกิดกระดูกหักหรือผิดรูปได้ในทารกแรกเกิด โรคนี้พบเป็นอันดับต้นๆ ในประเทศที่กำลังพัฒนา สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการขาดวิตามิน D สาเหตุอื่นที่พบได้ เช่น การขาดแคลเซียม

ในปัจจุบันนี้ยังไม่ได้มีการแนะนำให้ตรวจเลือดเพื่อดูระดับวิตามิน D ในหญิงตั้งครรภ์ทุกราย แต่แนะนำให้ตรวจในหญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามิน D โดยการตรวจระดับ 25-hydroxy vitamin D ในเลือดของหญิงตั้งครรภ์ และหากพบว่ามีภาวะขาดวิตามิน D ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จะแนะนำให้รับประทานวิตามิน D เสริมในขนาด 1000-2000 IU (International units) ต่อวัน ซึ่งเป็นขนาดที่ปลอดภัยสำหรับทารกในครรภ์

วิตามิน D เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน มีมากในอาหารเช่น นมสด น้ำผลไม้ น้ำมันปลา และวิตามิน D เสริมอาหาร และยังสร้างได้ในผิวหนังของคนเราเมื่อถูกแสงแดด จะช่วยเรื่องการดูดซึมของแคลเซียมจากลำไส้ และการเจริญเติบโตของกระดูก

หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ระบุว่า ภาวะขาดวิตามินพบบ่อยในหญิงตั้งครรภ์โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น คนที่รับประทานมังสวิรัติ คนที่ไม่ค่อยได้รับแสงแดด เช่น คนที่อาศัยอยู่ในแถบอากาศหนาว ใส่เสื้อผ้ากันแดดกันลม กลุ่มคนที่มีผิวคล้ำ เป็นต้น

ในทารกแรกเกิด ระดับวิตามิน D ในเลือดส่วนใหญ่จะขึ้นกับระดับวิตามิน D ในเลือดของแม่ ซึ่งหากหญิงตั้งครรภ์นั้นมีความเสี่ยงสูงเรื่องภาวะขาดวิตามิน D ทารกก็มักจะมีความเสี่ยงสูงในการขาดวิตามิน D ไปด้วย

ในหญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงในการขาดวิตามิน D ควรเจาะตรวจระดับวิตามิน D (25-OH-D) ในเลือด หากระดับวิตามิน D ในเลือดต่ำกว่า 32 ng/ml ( 80 nmol/L) จะถือว่ามีภาวะขาดวิตามิน D และควรรับประทานวิตามิน D ในขนาด 1000-2000 IU ต่อวัน ปกติวิตามิน D ที่มีอยู่ในวิตามินรวมทั่วๆไป สำหรับหญิงตั้งครรภ์มีแค่ 400 IU/เม็ด เท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับคนที่ขาดวิตามิน D

ดังนั้นการตรวจระดับวิตามิน D ในเลือดในหญิงตั้งครรภ์กลุ่มสี่ยงที่จะมีภาวะขาดวิตามิน D จึงมีความสำคัญ

คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?