การดูแลแผลกดทับในผู้สูงอายุ

การดูแลแผลกดทับในผู้สูงอายุ

HIGHLIGHTS:

  • ภาวะโลหิตจางและทุพโภชนาการทำให้ออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ไม่เพียงพอ ก็เป็นสาเหตุของการเกิดแผลกดทับได้
  • การพลิกตัวทุก 2 ชั่วโมง ช่วยป้องกันการเกิดแผลกดทับ

การดูแลแผลกดทับในผู้สูงอายุ

แผลกดทับ มักเป็นปัญหาสำหรับผู้สูงอายุหลายๆคน ที่นอนติดเตียง เคลื่อนไหวไม่ค่อยได้ หรือเคลื่อนไหวได้ช้า ทำให้ผิวหนังที่ถูกกดทับเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่องเกิดเป็นแผล เริ่มตั้งแต่ลักษณะเป็นแค่รอยแดงไปจนถึงมีแผลเปิดลึกถึงชั้นใต้ผิวหนังและกล้ามเนื้อ แผลกดทับมักจะเกิดบริเวณปุ่มกระดูกบนร่างกาย เช่น ก้นกบ บริเวณด้านข้างสะโพก ด้านข้างของข้อศอกและข้อเข่า ส้นเท้า ตาตุ่ม แม้แต่ใบหูหรือศีรษะด้านหลัง การเกิดแผลกดทับนี้จะส่งผลให้ผู้ป่วยเจ็บปวดและอาจมีการติดเชื้อ ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็จะทำให้แผลกดทับเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้นได้

สาเหตุการเกิดแผลกดทับ

  1. อายุมากขึ้นผิวหนังจะบางลง ขาดความชุ่มชื้น ฉีกขาดเป็นแผลง่าย
  2. โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือไทรอยด์ หรือโรคที่ทำให้แขนขาชาหรืออ่อนแรง ขยับเคลื่อนไหวเองลำบาก
  3. เกิดอุบัติเหตุ กระดูกหัก หรือเจ็บป่วยอื่นๆแล้วทำให้ต้องนอนพักเพียงอย่างเดียวเป็นเวลานานๆ
  4. ภาวะโลหิตจางและทุพโภชนาการทำให้ออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ไม่เพียงพอ

การป้องกันและดูแลแผลกดทับ

  1. หมั่นพลิกตะแคงตัว เปลี่ยนท่านอนอย่างน้อยทุกๆ 2 ชั่วโมง ควรใช้หมอนหรือผ้านุ่มรองบริเวณที่กดทับ เพื่อป้องกันการเสียดสี
  2. ดูแลที่นอนให้สะอาด แห้ง อากาศถ่ายเทอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้น
  3. การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยควรมีผ้ารอง เพื่อป้องกันการเสียดสีที่เกิดขึ้นระหว่างเคลื่อนย้าย ใช้การยกตัวผู้ป่วยขึ้นเพื่อเคลื่อนย้ายแทนการลากตัวผู้ป่วยไปบนเตียง
  4. ดูแลผิวหนังผู้ป่วยไม่ให้อับชื้นหรือแห้งเกินไปอยู่เสมอ
  5. ออกกำลัง ขยับแขนขาและข้อต่อต่างๆให้ผู้ป่วยเป็นประจำ จะสามารถช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด ป้องกันข้อติดในท่าเดิม และลดการถูกดทับต่อเนื่องของผิวหนัง
  6. ผู้ป่วยจะต้องได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน โดยเฉพาะ โปรตีน วิตามิน ธาตุเหล็ก น้ำ ในปริมาณที่เหมาะสม
  7. ดูแลทำความสะอาดแผลตามที่แพทย์หรือพยาบาลแนะนำ ควรล้างแผลเบาๆ หลีกเลี่ยงการขัดถูแผล เปลี่ยนผ้าปิดแผลทุกครั้งที่มีน้ำเหลืองซึม หรือมีปัสสาวะอุจจาระเข้าไปปนเปื้อนในแผล
  8. ถ้าดูแลรักษาเบื้องต้นไม่หาย ผิวหนังแดงช้ำมากขึ้นหรือเปิดเป็นแผลลึก มีหนองไหล มีกลิ่นเหม็น หรือมีอาการปวดมากขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์
คะแนนบทความ