ผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช เทคนิคที่ตอบโจทย์คุณผู้หญิงทุกคน

ผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช เทคนิคที่ตอบโจทย์คุณผู้หญิงทุกคน

ปัจจุบันกระแสสังคมเปลี่ยนไปบทบาทในสังคมของคุณผู้หญิงจึงเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ในทุกวันนี้ผู้หญิงก็ต้องออกมาทำงานไม่ต่างจากผู้ชาย หากคุณผู้หญิงทั้งหลายต้องประสบกับโรคบางโรคที่เกี่ยวกับมดลูกและรังไข่ คงจะสร้างปัญหาใหญ่ให้เป็นกังวลไม่น้อย เพราะถ้าพูดถึงการรักษาก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการ ผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช

อย่างที่ทราบกันดีว่าการผ่าตัดไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ จะต้องลางานหลายวันเพราะต้องพักฟื้นด้วย ซึ่งด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบในเรื่องงานคงไม่เอื้อให้คุณผู้หญิงทั้งหลายสามารถลางานเป็นเวลาหลายวันได้ เรื่องของการรักษาด้วยการผ่าตัดแบบทั่วไปจึงเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว แต่ด้วยทุกวันนี้วิทยาการทางการแพทย์ก้าวหน้าไปมาก แม้จะต้องผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาโรคที่เกิดขึ้นกับสุภาพสตรี แต่วิธีการผ่าตัดไม่ได้น่ากลัวและซับซ้อนเหมือนเมื่อสมัยก่อนแล้ว เพราะปัจจุบันแพทย์ได้มีการนำวิธีการผ่าตัดแบบผ่านกล้องมาใช้รักษาโรคทางนรีเวชกันแล้ว

ผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช คืออะไร

การผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช (gynecologic laparoscopic surgery) เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาโรคของสตรีโดยใช้วิธีการผ่าตัดแล้วสอดกล้องผ่านเข้าไปในช่องท้อง เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคนรีเวชในบริเวณอุ้งเชิงกราน ซึ่งหมายรวมถึงรังไข่ มดลูก ท่อนำไข่ และบริเวณใกล้เคียง วิธีนี้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก และเหมาะสมมากสำหรับผู้ป่วยอายุน้อย และคุณสุภาพสตรีที่วางแผนมีบุตรในอนาคต อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในรูปแบบการผ่าตัดแบบ MIS (Minimally Invasive Surgery) เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ที่ช่วยแผลผ่าตัดมีขนาดเล็กลง ลดอาการเจ็บแผล และใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อย

ข้อดี ของการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช

ประโยชน์ของการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช ก็คือแพทย์สามารถมองเห็นรายละเอียดของตำแหน่งที่จะทำการผ่าตัดได้ชัดเจนและมีความแม่นยำ เนื่องจากเป็นการดูด้วยกล้องขยายกำลังสูงต่างจากการผ่าตัดแบบเดิมซึ่งเป็นการดูด้วยตาเปล่า ซึ่งจะทำให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก ผู้ป่วยจะเสียเลือดน้อย และมีอาการปวดแผลน้อยมาก การรักษาด้วยวิธีนี้จะกระทบกระเทือนต่ออวัยวะภายในน้อยมาก อีกทั้งโอกาสเกิดพังผืดหลังการผ่าตัดก็มีน้อย และโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ก็น้อยด้วยเช่นกัน ผู้ป่วยจะใช้เวลาพักฟื้นไม่นานและหายเร็วสามารถลุกเดินได้ภายใน 1 วัน จึงไม่กระทบกับการทำงานเพราะไม่ต้องลางานนาน และที่สำคัญการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวชสามารถตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคทางนรีเวชได้หลากหลายมากกว่าเดิม

กระบวนการและขั้นตอนของการผ่าตัดผ่านกล้อง ก็ไม่ยุ่งยาก แพทย์จะทำการเจาะรู้ขนาดเล็ก ๆ ประมาณ 5 -10 มิลลิลิตร ผ่านช่องท้องหรือบริเวณที่ต้องการผ่าตัด จากนั้นแพทย์ก็จะทำการสอดท่อที่มีไฟฉายและกล้องขนาดเล็กที่สามารถบันทึกภาพอวัยวะภายในของผู้ป่วยอย่างชัดเจนเข้าไป และให้กล้องส่งภาพมายังจอมอนิเตอร์ซึ่งเมื่อทำเช่นนี้ศัลยแพทย์จะสามารถมองเห็นบริเวณที่มีปัญหาต้องการผ่าตัดได้ชัดเจน ทำให้ผลที่ได้หลังการผ่าตัดมีความเที่ยงตรงและแม่นยำเทียบเท่าหรือดีกว่าการผ่าตัดแบบเดิม

ข้อจำกัด ของการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช

แต่ถึงอย่างไรก็ตามการผ่าตัดผ่านกล้องแม้ว่าจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการอยู่เช่นกัน นั่นคือ แพทย์ที่ทำการผ่าตัดผ่านกล้องต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผ่าตัดผ่านกล้องที่ได้รับการอบรมและฝึกฝนประสบการณ์มาอย่างดีเท่านั้น จึงสามารถทำการผ่าตัดผ่านกล้องได้ และการผ่าตัดผ่านกล้องไม่สามารถใช้ได้กับผู้ป่วยทุกราย อย่างในกรณีผู้ป่วยที่มีเนื้องอกขนาดใหญ่มากเกิน 15 เซนติเมตรขึ้นไป อาจจะไม่สามารถใช้วิธีการผ่าตัดผ่านกล้องได้ ผู้ป่วยที่มีพังผืดในช่องท้อง โรคประจำตัวอย่างกระบังลมรั่ว โรคปอดหรือโรคหัวใจ และผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งบางชนิด คนเคยได้รับการผ่าตัด ผู้ป่วยโรคเหล่านี้ก็ไม่สามารถใช้วิธีการผ่าตัดผ่านกล้องได้เช่นกัน อีกทั้งการผ่าตัดผ่านกล้องนั้นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเพราะต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ

วันนี้เราได้ทำความรู้จักกับการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช ข้อดีและข้อจำกัดของวิธีการรักษานี้ไปแล้ว หวังว่าคงจะไขความกระจ่างให้กับคุณสุภาพสตรีทั้งหลายถึงเรื่องการรักษาด้วยวิธีนี้มากขึ้น เพราะวิธีนี้ไม่ได้น่ากลัวหรือน่ากังวลอย่างที่คุณผู้หญิงหลาย ๆ คนวิตก แต่ในทางกลับกันกลับเป็นวิธีที่สะดวกทั้งแพทย์และคนไข้ในการรักษาโรค เรียกว่าเป็นวิธีการผ่าตัดแบบใหม่ที่ตอบโจทย์คุณผู้หญิงจริง ๆ ดังนั้น ถ้าคุณมีโรคทางนรีเวช หากเข้าพบแพทย์รับการตรวจวินิจฉัยแล้ว แพทย์ลงความเห็นให้คุณต้องผ่าตัดผ่านกล้อง คุณก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอีกต่อไป เพราะนี่คือทางเลือกที่ดีในการรักษาโรคของคุณ

รู้จักกับคุณหมอโซ่สกุล บุณยะวิโรจ กับการผ่าตัดส่องกล้องทางนรีเวช

พลเรือตรี นพ. โซ่สกุล บุณยะวิโรจ มีความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช โดยคุณหมอจบการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และยังมีวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา แพทยสภา โดยคุณหมอมีความชำนาญด้านการผ่าตัดเกี่ยวกับโรคทางนรีเวช เช่น

การพักฟื้น และการดูแลหลังผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช

  • การผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช พักฟื้นกี่วัน : หลังการผ่าตัดส่องกล้องแบบ MIS ระยะเวลาการฟื้นตัวหลังการผ่าตัดจะเร็วกว่า โดยผู้ป่วยจะใช้เวลาพักฟื้นไม่นานและหายเร็วสามารถลุกเดินได้ภายใน 1 วัน จึงไม่กระทบกับการทำงานเพราะไม่ต้องลางานนาน
  • ห้องพักผู้ป่วยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน : หลังการผ่าตัดส่องกล้อง MIS ส่วนใหญ่จะอยู่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 1-2วัน โดยที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท มีห้องพักผู้ป่วยที่มี สิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ต่างๆ ที่คนไข้หรือผู้รับบริการสามารถใช้เทคโนโลยี ควบคุมทุกอย่างได้ เช่น ระบบไฟ ระบบผ้าม่าน ระบบแอร์ โดยไม่ต้องลุกจากเตียง ที่ห้อง Intelligent Ward คลิกเพื่อชมห้องพักผู้ป่วย
  • บริการ Samitivej PACE ติดตามคนไข้ทุกสถานะการผ่าตัด : เพราะ #เราไม่อยากให้ใครห่วง โรงพยาบาลสมิติเวชจึงมีบริการ Samitivej PACE ระบบติดตามทุกสถานการณ์ผ่าตัด ช่วยให้เราสามารถรู้สถานะคนไข้ว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนไหน เช่น กำลังอยู่ในห้องผ่าตัดหรือห้องพักฟื้น ซึ่งไม่ว่าญาติผู้ป่วยจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถเข้าไปดูสถานะการผ่าตัดได้ทุกที่ ทุกเวลา เพียงแอดไลน์ @Samitivej

ห้องผ่าตัดส่องกล้องทางนรีเวช ที่ศูนย์ Critical Care Complex

ห้องผ่าตัดที่ศูนย์ Critical Care Complex แตกต่างจากห้องผ่าตัดทั่วไป เพราะเราใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผ่าตัด เช่น ระบบหมุนเวียนอากาศภายในห้องผ่าตัดมีการกรองแบคทีเรียและเชื้อโรคต่างๆ เป็นแบบ laminar flow อากาศสะอาดจะไหลผ่านทางเดียวจากด้านบนลงสู่ด้านล่าง ไม่มีอากาศภายนอกเข้ามาปนเปื้อน ทำให้ผู้ป่วยปลอดภัยมากขึ้น โอกาสที่จะติดเชื้อในแผลผ่าตัดก็มีน้อยลง

คลิกชมวิดีโอห้องผ่าตัด ที่ศูนย์ Critical Care Complex

 
คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?