ความเสื่อมเริ่มแรก รู้เร็ว ชะลอวัยทัน

ความเสื่อมเริ่มแรก รู้เร็ว ชะลอวัยทัน

ด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน ทำให้เราละเลยเรื่องการดูแลสุขภาพของตัวเราเอง กว่าจะรู้ตัวอีกครั้ง ก็มักจะเกิดโรคต่างๆไปแล้ว ซึ่งกลไกหลักที่ส่งผลให้เซลล์แก่จากภายในนั้น เกิดจากอนุมูลอิสระสะสม การอักเสบซ่อนเร้น และการสะสมของสารบางอย่าง

อนุมูลอิสระ

อนุมูลอิสระ คือ ต้นตอของปัญหาโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคสมองเสื่อม โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคชราก่อนวัย และโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกายแบบอื่นๆ อนุมูลอิสระนี้สามารถเกิดได้จากความเครียดสะสม การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ความอ้วน มลภาวะในสิ่งแวดล้อม สารเคมีปนเปื้อน รังสี บุหรี่ แอลกอฮอล์
อนุมูลอิสระที่มากเกิน ร่างกายจะไม่สามารถกำจัดออกไปได้หมด หากปล่อยทิ้งให้สะสมไว้นาน จะนำไปสู่การเป็นโรคดังกล่าวได้ไวกว่าคนปกติ และแม้ว่าเราจะทานอาหารสุขภาพหรือวิตามินเข้าไปมากเท่าใด หากไม่ได้เข้าไปแก้ที่สาเหตุ อนุมูลอิสระเหล่านี้ย่อมไม่มีทางลดลง และคอยบั่นทอนคุณภาพในเซลล์ร่างกายไปทุกๆวัน

การอักเสบซ่อนเร้น

ภาวะการอักเสบในร่างกาย มีสาเหตุเริ่มต้นมาจาก ความเครียดด้านออกซิเดชั่น (oxidative stress) ในร่างกาย จากสารพิษโลหะหนัก สารอนุมูลอิสระ อาหารไขมันสูง อาหารทอด ความอ้วน บุหรี่ และแอลกอฮอล์ เป็นต้น

ปัจจัยเหล่านี้ จะทำให้เยื่อบุหลอดเลือดชั้นในเกิดการอักเสบ จนก่อให้เกิดคราบตะกรัน ส่งผลให้เกิดการแข็งตัวของหลอดเลือดในที่สุด เมื่อคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีหรือ LDL ผ่านเข้ามายังพื้นที่ใต้เยื่อบุหลอดเลือด การทำลายเยื่อบุหลอดเลือดจึงเกิดขึ้น แต่ร่างกายของเรามีระบบการป้องกันที่ถูกออกแบบมา โดยการส่งเม็ดเลือดขาวจำนวนหนึ่ง มากำจัดคลอเลสเตอรอลที่เป็นอันตราย แต่ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา หากเรายังไม่ได้กลับไปแก้ที่ต้นเหตุที่กระตุ้นการอักเสบในร่างกายเรา

ปัจจุบันมีการตรวจภาวะการอักเสบเบื้องต้น เรียกว่า การตรวจหาค่า CRP (C-Reactive Protein) ซึ่งเป็นโปรตีนตอบสนองในระยะเฉียบพลัน ซึ่งสร้างจากเซลล์ตับ สารชนิดนี้มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับการเกิดโรคเส้นเลือดแข็งตัว (atherosclerosis) และความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจกำเริบ

สารโฮโมซีสทีน

สารโฮโมซีสทีน (Homocysteine) หรือโฮโมซีสเตอีน เป็นสารที่ร่างกายไม่ต้องการ แต่เกิดจากการย่อยสลายของอาหารประเภทโปรตีนที่เรารับประทานเข้าไป ปกติร่างกายของเราจะขจัด “สารโฮโมซีสทีน” โดยเปลี่ยนให้เป็น “สารซีสทีน” แทน ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อหลอดเลือด แต่ถ้าเรารับประทานอาหารประเภทโปรตีนมากจนเกินไป หรือในขณะนั้น ร่างกายมีการขาดวิตามิน บี6 บี12 และกรดโฟลิค หรือมีพันธุกรรมที่ผิดปกติ ก็จะทำให้เกิดสารโฮโมซีสทีนในเลือดสูงขึ้นได้ แต่เราสามารถทราบระดับของโฮโมซีสทีนในเลือดได้จากการตรวจเลือดออกมาดูว่ามีค่าสูงจนมีความเสี่ยงหรือไม่ ซึ่งถ้ามีสูงขึ้นเกินกว่าระดับที่ควรจะเป็น สารนี้จะไปทำลายหลอดเลือด โดยเฉพาะหลอดเลือดขนาดเล็ก เช่น หลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดที่อยู่ในสมอง โดยจะมีผลทำให้มีโอกาสตีบและอุดตันได้ง่ายกว่าคนปกติ หากมีการตีบตันขึ้นแล้วจะส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้ลดลง ไปเลี้ยงสมองได้ลดลง ส่งผลให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตาย หลอดเลือดสมองตีบหรือฝ่อได้

เพราะการตรวจสุขภาพประจำปีแบบปกติอาจไม่เพียงพอที่จะช่วยหาสาเหตุเริ่มต้นของความเสื่อมในร่างกาย การตรวจหาสาเหตุก่อนที่จะเกิดโรค (Early Detection) จะช่วยให้เราเริ่มทบทวนปัญหาสุขภาพที่เจอ และอยากกลับมาดูแลสุขภาพตัวเราเองให้ดีจากภายใน

ข้อมูลโดย เภสัชกรณัฐวุฒิ รักแคว้น
เภสัชกรประจำที่โรงพยาบาลสมิติเวช

คะแนนบทความ