การจัดโต๊ะทำงานให้ถูกหลัก Ergonomic และห่างไกลจากโรค COVID-19

ผลการวิจัยพบว่า มีแบคทีเรียมากกว่า 10 ล้านตัวแฝงอยู่บนโต๊ะทำงาน โดย 7,500 ตัวซ่อนอยู่ในคีย์บอร์ด

ซึ่ง 70 – 80 % ของแบคทีเรียเหล่านั้นมีแหล่งกำเนิดจากมนุษย์ โดยเฉพาะจากผิวหนัง ปากและลำไส้ ทั้งนี้หลังจากทำความสะอาดโต๊ะไปแล้ว แบคทีเรียและเชื้อโรค สามารถกลับมาอาศัยอยู่ที่เดิมได้ภายในไม่กี่วัน ดังนั้นในช่วงที่โรคโควิด-19 กำลังแพร่กระจาย การดูแลจัดโต๊ะทำงานและทำความสะอาดให้ถูกสุขลักษณะ จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรเริ่มทำ

• โต๊ะทำงานควรมีแสงสว่างเพียงพอ โดยเลือกโคมไฟที่เคลื่อนย้ายสะดวกและสามารถปรับทิศทางได้ง่าย รวมถึงใช้แสงอ่อน เพื่อช่วยให้สบายตาขึ้น
• จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม จอคอมพิวเตอร์ควรอยู่ในระดับสายตา ระยะจากจอภาพถึงตาผู้ใช้ควรอยู่ระหว่าง 0.4-0.50 เมตร ส่วนคีย์บอร์ดและเมาส์อยู่ในระดับต่ำลงเล็กน้อย ขณะพิมพ์งานจะได้ไม่ต้องยกไหล่มากเกินไป หรือต่ำจนต้องงอหลัง
• ลดแสงจ้าของจอคอมพิวเตอร์ลงให้รู้สึกสบายตา และป้องกัน จอประสาทตาเสื่อม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาจใส่แว่นตาที่ป้องกันแสงยูวี หรือติดฟิล์มช่วยลดแสง UV400/UVA1 บริเวณ หน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้ดวงตาสัมผัสแสงโดยตรง และควรพักสายตาประมาณ 5 นาที ทุก 2 ชั่วโมง
• เก้าอี้ควรเหมาะกับโต๊ะทำงาน ขณะทำงานควรนั่งให้เต็มก้น โดยหลังพิงพนักพอดี ปรับเก้าอี้ให้สูงพอเหมาะกับโต๊ะทำงาน ไม่สูงหรือต่ำเกินไป หากนั่งแล้วเท้าลอย ควรหาที่รองเท้าหนุนให้ระดับเท้างอเป็นธรรมชาติ

เชื่อหรือไม่ว่า โต๊ะทำงานส่วนใหญ่สกปรกกว่าฝารองนั่งชักโครกถึง 400 เท่า และ 1 ใน 5 ของคนทำงานมักรับประทานอาหารบนโต๊ะทำงานโดยไม่ทำความสะอาดก่อน การทำความสะอาดโต๊ะสม่ำเสมอจึงมีความสำคัญมาก โดยทำได้ดังนี้

• นำอุปกรณ์ทั้งหมดออกจากโต๊ะ ปัดฝุ่นและทำความสะอาดโต๊ะด้วยผ้าแห้ง จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดเช็ดโต๊ะให้สะอาดทุกซอกทุกมุม ทิ้งไว้จนโต๊ะแห้งสนิทค่อยจัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ กลับขึ้นโต๊ะอีกครั้ง
• คัดแยกสิ่งของตามหมวดหมู่ เช่น เอกสาร หนังสือ เครื่องเขียน เครื่องใช้ไฟฟ้า
• ทำความสะอาดคอมพิวเตอร์ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะ โดยถอดสายไฟต่างๆ และปิดเครื่องให้เรียบร้อย สำหรับการทำความสะอาดคีย์บอร์ด ควรคว่ำแป้นคีย์บอร์ดและเขย่าเบา ๆ เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกตามซอก จากนั้นใช้สำลีหรือคัตตอลบัดชุบน้ำยาทำความสะอาดเช็ดบริเวณแป้นตัวอักษร
• ควรมีแก้วน้ำและถ้วยกาแฟส่วนตัว โดยล้างให้สะอาดทุกครั้งหลังใช้เสร็จ และเก็บคว่ำให้แห้งในบริเวณที่สะอาด
• ปากกา และดินสอก็ต้องทำความสะอาดเช่นกัน เนื่องจากถูกใช้ด้วยมือที่หยิบจับสิ่งต่างๆ มาตลอดทั้งวัน จึงเป็นแหล่งอาศัยของแบคทีเรียและเชื้อโรคมากมาย
• ควรทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ต่างๆ เป็นประจำสม่ำเสมอ

ทำความสะอาดโดยรอบบริเวณโต๊ะทำงานของตัวเอง

ก่อนที่คุณจะเริ่มนั่งทำงานบนโต๊ะของคุณเอง ควรใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวโต๊ะ คีย์บอร์ด เมาส์ และโทรศัพท์ออฟฟิศ รวมไปถึงอุปกรณ์ออฟฟิศต่างๆ อย่างแผงปุ่มเครื่องถ่ายเอกสาร หรือแม้แต่ที่จับประตูที่ผู้คนสัมผัสบ่อย อ้างอิงข้อมูลจากกรมควบคุมโรค แนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับพื้นผิว เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อโคโรนาไวรัส  (COVID- 19) ดั้งนี้

1. แอลกอฮอล์ 70% เหมาะสะหรับพื้นผิวที่เป็นโลหะ
2. ผงซักฟอกผสมน้ำร้อน 70 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับวัสดุที่เป็นผ้า
3. น้ำยาฟอกขาว (6% สารโซเดียมไฮโปคลอไรท์) 1 ส่วน ต่อน้ำ 99 ส่วน เหมาะสำหรับพื้นผิวที่มีละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย และควรจะเปิด ประตู หน้าต่าง เพื่อระบายอากาศ เมื่อใช้น้ำยาฆ่าเชื้อหรือน้ำยาฟอกขาว

อย่างไรก็ดีควรมั่นใจด้วยว่าเช็ดทำความสะอาดอย่างถูกวิธีแล้ว โดยให้สารของผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคคงค้างไว้ระยะเวลาหนึ่ง ประมาณ 3-5 นาที จากนั้นจึงค่อยเช็ดให้แห้งด้วยผ้าที่สะอาด

การทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือ

ใช้ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (isopropyl alcohol) ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค  โดยใช้แอลกอฮอล์ 70% จากนั้นหยดลงบนผ้าสะอาดหรือสำลีเช็ดเฉพาะด้านนอกตัวเครื่อง  เช่น เคสโทรศัพท์มือถือ หรือบนฟิล์มกระจกที่ติดต่างหาก ควรหลีกเลี่ยงการเช็ดบนหน้าจอโดยตรงเพราะมือถือรุ่นใหม่จะมีการเคลือบสารป้องกันรอยขีดข่วน เมื่อสัมผัสแอลกอฮอล์บ่อยๆ อาจะทำให้สารเคลือบหน้าจอหลุดออกไป

วิธีเช็ดเริ่มจาก ปิดเครื่อง เช็ดตัวเครื่องไปในทางเดียวกัน โดยไม่วนกลับไปมา จากนั้นใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูเช็ดให้แห้งอีกครั้ง ทั้งนี้การทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือไม่ว่าจะรุ่นใดก็ตาม ห้ามใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของสารตัวทำละลาย แอมโมเนีย หรือสารกัดกร่อน รวมถึงไม่ควรใช้น้ำยาเช็ดกระจก หรือน้ำยาทำความสะอาดในครัวเรือนเด็ดขาด นอกจากนี้การทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือควรทำประจำสม่ำเสมอ จะช่วยลดการเกิดเชื้อโรคได้

หมั่นล้างมืออยู่เสมอ

ในช่วงที่ไวรัส กำลังแพร่ระบาดทุกคนควรที่จะปรับและเปลี่ยนพฤติกรรมโดยการล้างมือให้ถี่ขึ้นด้วยสบู่หรือเจลที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไป ซึ่งการล้างมือ ถือเป็นวิธีกำจัดเชื้อไวรัสและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ การล้างมือควรทำทันทีหลังจากที่มือไปสัมผัสพื้นผิวต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนรับประทานอาหาร หรือใช้มือปิดปากตอนไอหรือจาม ก็ควรรีบล้างมือให้สะอาดทันทีและไม่เพียงแค่หมั่นล้างมือเท่านั้น แต่ยังควรล้างมือให้ถูกต้องอีกด้วย โดยปล่อยให้น้ำไหลผ่านมือทั้ง 2 ข้างตามด้วยถูสบู่ให้ทั่วทั้งฝ่ามือ หลังมือ ข้อมือ รวมถึงซอกนิ้ว และซอกเล็บโดยใช้เวลาในการล้างมือประมาณ 20 วินาที แล้วค่อยล้างสบู่ออกด้วยน้ำให้สะอาด จากนั้นเช็ดมือให้แห้งด้วยผ้าหรือกระดาษที่สะอาด

การทำความสะอาดจะกำจัดไวรัสและแบคทีเรียออกจากพื้นผิวเท่านั้น แต่การฆ่าเชื้อจะกำจัดเชื้อโรคออกไปทั้งหมด หากปฏิบัติตามคำแนะนำนี้ ก็จะปลอดภัยจากเชื้อไวรัสได้