โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ในความโชคร้าย ก็ยังมีข่าวดีที่เป็นทางออกให้ลูกของเรา

คุณหมอมาบอกว่า “ลูกของคุณแม่มีโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด และมีโอกาสหัวใจวายได้”  วันนั้นคือวันที่ลูกเพิ่งมีอายุได้เพียง 3 วัน  ซึ่งลูกคลอดออกมาตัวเล็กนิดเดียว   พญ. รวงผึ้ง ตั้งผลไกวัลศักดิ์ (กุมารเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดและปริกำเนิด)  เป็นผู้ตรวจร่างกาย  และได้ยินเสียงฟู่ของหัวใจดังผิดปกติ จึงปรึกษาผศ.นพ.วรการ พรหมพันธุ์ (กุมารเวชศาสตร์โรคหัวใจเด็ก) และทำการอัลตร้าซาวน์หัวใจ พบว่ามีผนังหัวใจรั่วในทารก โดยผนังกั้นหัวใจด้านล่าง (เวนทริเคิล) มีรอยรั่ว ขนาด 5 x 7 มม. ซึ่งถือว่ามีรอยรั่วขนาดใหญ่

ความรู้สึกของคุณแม่ หลังจากตรวจพบผนังหัวใจรั่วในทารก

หลังจากการตรวจที่พบความผิดปกตินั้นทำให้ทุกๆ วันของแม่ ผ่านไปด้วยความกังวลเป็นอย่างมาก จนกระทั่งวันที่ทำให้แม่ยิ่งทวีความกังวลมากขึ้นได้มาถึง เมื่อน้องอายุได้ประมาณ  5 เดือน พ.ญ. วันทนา โรจน์ชีวิน กุมารแพทย์เจ้าของไข้ และผศ.นพ.วรการ กุมารแพทย์โรคหัวใจเด็ก ผู้ดูแลอาการน้องมาตลอด ตรวจพบอีกว่าน้องดูเหนื่อยขึ้น ดูดนมได้น้อยลง น้ำหนักก็ไม่ขึ้น แจ้งว่าอาการหัวใจวายจากรูรั่วดังกล่าวเป็นมากขึ้น และพิจารณาการรักษาโดยการผ่าตัดปิดรูรั่ว

ลูกผ่าตัดหัวใจที่ประเทศไทย

ด้วยสถานการณ์ ณ เวลานั้น การเดินทางกลับไปญี่ปุ่น และการเริ่มต้นไปปรึกษาหมอที่นั่นใหม่นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องใช้เวลานาน อาจทำให้ลูกเสี่ยงเกิดอันตรายถึงชีวิตได้  ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดขึ้น

แต่ในความโชคร้ายนั้น กลับมีข่าวดีว่า โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช สุขุมวิท ได้ประชุมสรุปและเตรียมการผ่าตัดหัวใจให้กับน้อง โดยมีทั้งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ทีมแพทย์ผ่าตัด แพทย์ดมยา และแพทย์ดูแลด้านวิกฤติฉุกเฉินของเด็ก PICU โดยเฉพาะ ที่สามารถให้การดูแลรักษาลูกให้หายเป็นปกติได้ 

ซึ่ง นพ.จุล นำชัยศิริ ศัลยแพทย์ระบบหัวใจและทรวงอก หัวหน้าทีมผ่าตัด เสริมว่า "โรคหัวใจผิดปกติแต่กำเนิด หรือ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เป็นโรคที่ไม่สามารถป้องกันได้ แต่สามารถรักษาให้หายได้ หากได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดรวดเร็ว และวางแผนการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ น้องอาจเสียชีวิตได้ การที่รักษาได้เร็ว น้องก็จะสามารถกลับมาเป็นเด็กปกติ เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ..เรื่อง"หัวใจ"ฝากให้เราดูแล" 

ทีมแพทย์และพยาบาลเตรียมแผนการดูแล การผ่าตัดหัวใจเด็กทารก เพื่อรักษาโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด

อย่างไรก็ตามความวิตกกังวลก็ยังคงมีอยู่มาก  เนื่องจากเป็นการผ่าตัดหัวใจน้องครั้งนี้และเป็นการผ่าตัดใหญ่ในเด็กเล็ก  ครอบครัวของเรากลัวว่าน้องจะเสียชีวิต หรือได้รับความเจ็บปวดอย่างมาก แม่จึงพยายามจดบันทึกทุกอย่างที่แพทย์อธิบาย และตั้งคำถามถึงแนวทางการรักษา ทางเลือกการรักษา  

ก่อนการผ่าตัดทีมแพทย์ ได้ทำการประชุม  ทั้ง พ.ญ.วันทนา  น.พ.จุล ผศ.นพ.วรการ  น.พ.ภานุรุจ พ.ญ.พัชรินทร์ รวมถึงทีมพยาบาล PICU เพื่อเตรียมแผนการดูแล ตั้งแต่ก่อน ระหว่าง และหลังการผ่าตัด

“แม้ลูกรักจะเกิดมาพร้อมกับหัวใจดวงน้อยที่ผิดปกติ แต่ปัจจุบันเรามีศักยภาพและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย อีกทั้งหมอเด็กผู้เชี่ยวชาญทุกคนพร้อมที่จะให้การรักษาเด็กๆ ให้หายขาดจากโรคที่เป็นอยู่ ทั้งขั้นตอนการวางแผนการรักษา ขั้นตอนการรักษา อีกทั้งยังมีหอผู้ป่วยเด็กวิกฤติที่พร้อมดูแลผู้ป่วยเด็กหลังผ่าตัดหัวใจ เพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด ด้วยความคาดหวังให้ลูกน้อยสามารถเติบโตแข็งแรงได้เช่นเดียวกับเด็กปกติ”  พญ.พัชรินทร์ ตรีจักรสังข์ กุมารแพทย์ด้านเวชบำบัดวิกฤติและฉุกเฉินได้ให้ข้อมมูลเพิ่มเติมเพื่อให้คุณแม่คลายความกังวล

เข้ารับการผ่าตัดรักษาผนังหัวใจรั่วในทารก

หากถามว่ากลัวมั้ย คนเป็นแม่ตอบได้ทันทีเลยว่า “กลัว”  แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกมั่นใจในความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ว่าจะสามารถรักษาลูกน้อยของเราให้ผ่านพ้นการผ่าตัดใหญ่ที่น่ากลัวนี้ไปได้ด้วยดี และสุดท้ายก็เป็นเช่นนั้น 

น้องได้รับการผ่าตัดปิดรูรั่วหัวใจอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญใครจะเชื่อว่าเด็กตัวเล็กๆ อายุเพียง 5 เดือน จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว   สามารถถอดท่อช่วยหายใจ หลังทำการผ่าตัดเสร็จเพียง 1 วัน ใช้เวลาพักฟื้นใน ICU เพียง 4วัน จากนั้นกลับบ้านได้ภายใน 8 วัน 

คุณแม่ขอขอบคุณทีมแพทย์ทุกๆ ท่าน รวมถึงพยาบาล และโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช สุขุมวิท ที่ร่วมใจกันรักษา ดูแลน้องจนหายดี และใช้ชีวิตเหมือนเด็กปกติ ทั่วไป

รายละเอียดเพิ่มเติม

ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ผ่าตัดหัวใจในเด็ก ที่โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช

ความพร้อมในการดูแลเด็ก หลังผ่าตัดหัวใจในเด็ก

อุ่นใจด้วยการพาน้องกลับบ้าน

ทำนัดปรึกษาหมอเด็ก ออนไลน์ ปรึกษากุมารเวชศาสตร์โรคหัวใจ (Second Opinion)

คะแนนบทความ