สถาบันโรคตับ และระบบทางเดินอาหาร

ชั้น 1, อาคารโรงพยาบาลญี่ปุ่น ทุกวัน เวลา 08:00 - 18:00 น. 66 (0) 2022-3410-11 info@samitivej.co.th
สมิติเวช สุขุมวิท
สมิติเวช ศรีนครินทร์

Clinical Outcome

  • 3,800 เคส/ปี คือ สถิติการส่องกล้องมะเร็งลำไส้ใหญ่และกระเพาะอาหารที่สมิติเวช โดยมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง 0% (สถิติการส่องกล้องล่าสุด ธันวาคม 2561)
  • ด้วย NBI technique สามารถตรวจพบติ่งเนื้อได้เร็วกว่าปกติ 2 เท่า
  • 61.46% Adenoma Detection Rate (สถิติการส่องกล้องล่าสุด ธันวาคม 2561)
    มาตรฐานแนะนำโดย The American Society for Gastrointestinal Endoscopy (ASGE)

Liver and GI Conditions Treated by Expert Gastroenterologist at Samitivej

เราพร้อมให้บริการตรวจวินิจฉัย บำบัด และรักษาโรคทุกรูปแบบและทุกสภาวะ ในตับ ตับอ่อน กระเพาะอาหาร และถุงน้ำดี ซึ่งรวมถึง

  • ตับอักเสบ เอ บี ซี
  • ไขมันสะสมในตับ
  • โรคตับที่เกิดจากพันธุกรรม
  • ตับแข็ง
  • การติดเชื้อในตับ เช่น ฝีในตับ
  • มะเร็งตับ ระยะเริ่มต้น และระยะอื่นๆ
  • กรดไหลย้อน (GERD)
  • แผลในกระเพาะอาหาร
  • โรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารเรื้อรัง เช่น ระบบทางเดินอาหารติดเชื้อ ลำไส้อักเสบเป็นแผลเรื้อรัง
  • ท้องเสียฉับพลัน และเรื้อรัง
  • เลือดออกในระบบทางเดินอาหารทั้งส่วนบนและส่วนล่าง
  • ริดสีดวงทวารหนัก และการผิดรูปของทวารหนัก
  • ความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร เช่น ลำไส้แปรปรวน และปวดท้อง
  • ความผิดปกติในหลอดอาหาร เช่นหลอดอาหารตีบ
  • ตับอ่อนอักเสบ เฉียบพลัน และเรื้อรัง
  • นิ่วในถุงน้ำดี และท่อน้ำดี
  • โรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก หลอดอาหาร ตับอ่อน และถุงน้ำดี

เราพร้อมให้บริการด้วยเครื่องมือและการตรวจรักษาที่เพียบพร้อม ซึ่งรวมถึง

  • การตรวจวินิจฉัยภาพ (เอกซเรย์ อัลตราซาวด์ ซีทีสแกน เอ็มอาร์ไอ)
  • ไฟโบรสแกน
  • การดูดและเจาะตรวจชิ้นเนื้อในตับ
  • การบำบัดรักษาโรคตับ
  • การผ่าตัดส่องกล้องเทคนิค NBI เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ รายละเอียดเทคโนโลยี NBI
  • การผ่าตัดส่องกล้อง และการวิเคราะห์โรคด้วยการส่องกล้อง เช่น โรคเนื้องอกในระบบทางเดินอาหาร โรคในท่อน้ำดี และอื่นๆ
  • เทคนิค ESD (Endoscopic Submucosal Dissection) การผ่าตัดผ่านกล้องตัดก้อนเนื้อขนาดใหญ่แบบไร้แผลได้ในขั้นตอนเดียว โดยไม่ต้องเปิดหน้าท้อง ทั้งการรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งกระเพาะอาหาร โดยปกติเมื่อแพทย์ตรวจพบความผิดปกติจากการตรวจส่องกล้อง หากเป็นติ่งเนื้อทั่วไป แพทย์ก็สามารถตัดติ่งเนื้อผ่านการส่องกล้องได้ทันทีแต่ยังมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถทำได้กรณีที่ติ่งเนื้อมีขนาดใหญ่ ซึ่งแพทย์ต้องส่งคนไข้เข้ารับการผ่าตัดเพื่อตัดก้อนติ่งเนื้อ หรือเนื้องอกออก แต่สำหรับเทคนิค ESD ดังกล่าวนี้ แพทย์สามารถตัดก้อนชิ้นเนื้อขนาดใหญ่ออกจากลำไส้ใหญ่ และกระเพาะอาหารได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเหมือนในอดีตที่ผ่านมา โดยสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการผ่าตัด ไม่มีแผลที่ผนังหน้าท้อง ลดระยะเวลาการอยู่รักษาตัวในโรงพยาบาล และผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่า ทำให้คนไข้สามารถกับไปใช้ชีวิตอย่างปกติได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ลดภาวะแทรกซ้อน และปลอดภัย
  • การฉีดแอลกอฮอล์ตรงเข้าไปที่เซลล์มะเร็งตับเพื่อรักษาโรคมะเร็งตับ (PEI)
  • การให้เคมีบำบัดเข้าก้อนมะเร็งโดยตรงโดยสอดสายขนาดเล็กเข้าทางเส้นเลือดแดง ตับเข้าก้อนมะเร็ง (TOCE)
  • การห้ามสภาวะเลือดออกเฉียบพลันในระบบทางเดินอาหารและตับ โดยใช้เจลโฟม (TAE)
  • การใช้คลื่นเสียงเพื่อตรวจรักษามะเร็งตับ (RFA)
  • การผ่าตัดเพื่อรักษาโรคตับ ท่อน้ำดี และความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร
  • การตรวจการทำงานของหลอดอาหาร (High resolution impedance manomety)
  • การตรวจกรดไหลย้อน 24 ชั่วโมง (24 hr. impedance monitoring)
  • การตรวจการทำงานของลำไส้เล็ก
  • การตรวจการทำงานของลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (High-resolution manometry)
  • การฝึกหัดการเบ่งถ่ายอุจจาระ (Biofeedback)
  • การตรวจวินิจฉัยโรคระบบทางเดินอาหารด้วยการกลืนแคปซูล
  • ผ่าตัดมะเร็งลำไส้
  • ผ่าตัดด้วยวิธีส่องกล้อง
  • Targeted Therapy

Medical equipment and technology

อุปกรณ์เครื่องมือ และเทคโนโลยีทางการแพทย์

  • เอกซเรย์ และอัลตร้าซาวด์ในช่องท้อง
  • เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan)
  • การตรวจวินิจฉัยด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
  • การส่องกล้องตรวจระบบทางเดินอาหาร
  • การส่องกล้องตรวจระบบทางเดินอาหารด้วยการใช้แคปซูล
  • เครื่องตรวจการเคลื่อนไหวและการบีบตัวของทางเดินอาหาร
  • การตรวจทางพยาธิวิทยาของระบบทางเดินอาหาร
  • การรักษาโดยการผ่าตัดและส่องกล้องผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ
  • การรักษาโรคมะเร็งทางเดินอาหารและตับโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • เครื่องช่วยการทำงานของตับ
  • ไฟโบรสแกน เครื่องตรวจพังผืดในตับและไขมันในตับ

เชี่ยวชาญเฉพาะทางเรื่องระบบทางเดินอาหาร และตับ ครบครันด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเทคโนโลยีทางการแพทย์ชั้นนำ พร้อมตรวจหาสาเหตุของโรค ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก จนถึงการรักษาที่ซับซ้อนของระบบทางเดินอาหาร ได้รวดเร็ว แม่นยำ ปลอดภัย เพื่อการรักษา ที่มีประสิทธิภาพ และเพื่อผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

โดยมีความพร้อมให้บริการสำหรับคนไข้ชาวไทยและชาวต่างชาติด้วยอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ตามมาตรฐานสากลที่แพทย์ทั่วโลกยอมรับ โดยโรงพยาบาลได้รับรางวัลบริการระดับมาตรฐานสากลจากสถาบัน JCI พร้อมยังเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการตรวจส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร และเชี่ยวชาญด้านวินิจฉัย และรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่โดยเฉพาะ โดยสถาบันโรคตับ และระบบทางเดินอาหาร โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ได้มุ่งมั่นพัฒนายกระดับมาตรฐานทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง

โดยร่วมมือกับโรงพยาบาล “ซาโน่” ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในประเทศญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญด้านการส่องกล้องระบบทางเดินอาหารและการแปลผลลักษณะผิวเยื่อบุของระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะลักษณะผิวของติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ (Image Enhanced Endoscopy ) โดยมี ศาสตราจารย์ นพ.ยาซูชิ ซาโน่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลซาโน่ และผู้อำนวยการสถาบันส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้คิดค้นวิธีการจำแนกเนื้อเยื่อบุผิว เพื่อการวินิจฉัยลักษณะของติ่งเนื้อลำไส้ใหญ่ (colonic polyp) เป็นที่ยอมรับของแพทย์ทางตะวันตก

โรงพยาบาลสมิติเวช ได้นำ 2 เทคนิคซาโน่ จากญี่ปุ่น เข้ามายกระดับมาตราฐานการรักษา ได้แก่

  • เทคนิคการส่องกล้อง NBI (Narrow Band Image) ที่ใช้เพื่อ ช่วยวินิจฉัยความผิดปกติของติ่งเนื้อที่อาจกลายเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ แม้ก้อนเนื้อยังไม่นูนขึ้นมาได้เร็วกว่าวิธีการส่องกล้องแบบเดิม ถึง 2 เท่า เข้าถึงสาเหตุของปัญหาได้ตรงจุด เพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัยจากมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • พร้อมเทคนิค ESD (Endoscopic Submucosal Dissection) การผ่าตัดผ่านกล้องตัดก้อนเนื้อขนาดใหญ่แบบไร้แผลได้ในขั้นตอนเดียว โดยไม่ต้องเปิดหน้าท้อง สำหรับการรักษาติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ และมะเร็งกระเพาะอาหารระยะเริ่มต้น

ที่สำคัญสถาบันโรคตับ และระบบทางเดินอาหาร ยังเป็นโรงพยาบาลเอกชนเพียงไม่กี่แห่งที่สามารถผ่าตัดปลูกถ่ายตับ แก่ผู้ป่วยโรคตับได้ โดยอัตราความสำเร็จในการปลูกถ่ายตับ สูงถึง 90% ซึ่งผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติดังเดิม และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นอกจากนี้สถาบันโรคตับ และระบบทางเดินอาหารยังครบครันด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยสำหรับการตรวจรักษาระบบทางเดินอาหารและตับแบบครบวงจร ให้บริการตรวจวินิจฉัยโรคที่รวดเร็ว แม่นยำ เชื่อถือได้ พร้อมทั้งโรคอื่นๆ อาทิ

  • การติดเชื้อ โรคจากพิษสุรา
  • ตับแข็ง
  • ภาวะไขมันคั่งสะสมในตับ
  • ตับอ่อนอักเสบ
  • นิ่วในถุงน้ำดี
  • มะเร็งกระเพาะอาหาร
  • มะเร็งลำไส้ใหญ่

และอื่นๆ โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ครบวงจร และมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโดยมีประสบการณ์ทั้งในและต่างประเทศสถาบันดังกล่าวตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 1 ของอาคารโรงพยาบาลญี่ปุ่น สมิติเวช สุขุมวิท โดยมีแพทย์เฉพาะทางประจำ 11 คน พยาบาล 15 คน รวมทั้งมีห้องตรวจโรค 13 ห้อง ห้องส่องกล้อง 5 ห้อง และห้องพักฟื้น 10 ห้อง

สถาบันโรคตับและทางเดินอาหารให้บริการแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ป่วยชาวต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่สุด โดยในแต่ละปีสมิติเวชให้บริการแก่ผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นมากถึง 135,000 คน หรือประมาณวันละ 400 คนโดยเฉลี่ย ทำให้สมิติเวชเป็นโรงพยาบาลเอกชนนอกประเทศญี่ปุ่นที่ให้บริการชาวญี่ปุ่นมากที่สุด

โดยที่สมิติเวชได้เริ่มเปิดบริการศูนย์การแพทย์เฉพาะสำหรับชาวญี่ปุ่น เมื่อเดือนตุลาคม 2553 โดยมีล่ามภาษาญี่ปุ่น และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้คอยให้บริการ พร้อมให้การรักษาและพักฟื้นในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเอาใจใส่ ซึ่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญเป็นอย่างมากที่จะทำให้ผู้ป่วยกลับมาแข็งแรงได้ในเร็ววัน โดยสมิติเวชให้ความสำคัญในเรื่องนี้จึงได้จัดให้มีพยาบาลประจำตัวให้แก่ผู้ป่วยเหล่านี้ทุกคน พยาบาลผู้ให้การดูแลผู้ป่วยที่มารับการรักษาที่สมิติเวช มีความเข้าใจในแต่ละเคสอย่างลึกซึ้ง และตระหนักว่าการดูแลผู้ป่วยมีความละเอียดอ่อนและสำคัญมากเพียงใด