สำลักเงียบ ภัยเงียบ แต่อันตรายถึงชีวิต

สำลักเงียบ ภัยเงียบ แต่อันตรายถึงชีวิต

HIGHLIGHTS:

  • ในผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี จะพบอัตราเสียชีวิตด้วยภาวะปอดติดเชื้อ จากการสำลักสูงถึงเกือบ 30%
  • การสำลักเงียบไม่มีอาการแสดงให้เห็น หากขาดความระมัดระวังและไม่ทราบว่ามีการ สำลักอาหาร หรือน้ำดื่มลงในทางเดินหายใจ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ปอดอักเสบติดเชื้อ (Aspiration pneumonia) ซึ่งนำไปสู่อันตรายถึงแก่ชีวิตได้
  • หากผู้สูงอายุมีอาการไข้ ไอมีเสมหะ หายใจลำบากหรือหอบเหนื่อย เจ็บแน่นหน้าอก ซึมลง อาจเป็นสัญญาณอันตรายจากภาวะสำลักเงียบจนเกิดภาวะหลอดลมอักเสบหรือปอดอักเสบติดเชื้อ ต้องหยุดป้อนอาหารทางปากและมาพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที

สำลักเงียบ (Silent Aspiration) คือ การสำลักอาหารหรือน้ำดื่มลงในทางเดินหายใจโดยไม่มีอาการไอ (cough) หรือ เสียงพร่า (wet voice) ตอบสนองให้เห็น เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่มีปัญหาการกลืนผิดปกติ สามารถเกิดได้ในทุกเพศทุกวัย

สำลักเงียบและภาวะกลืนลำบากในผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุที่มีโรคทางระบบประสาท  เช่น stroke, Parkinson’s, dementia  พบภาวะกลืนลำบากได้สูงถึง 50-75% และพบว่ามีภาวะสำลักเงียบร่วมได้ถึง 40 – 70 %  ส่งผลให้เกิดปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรงตามมา ในกรณีผู้สูงอายุที่มีภาวะปอดอักเสบติดเชื้อแล้ว พบมีภาวะสำลักเงียบสูงถึง 71% และในผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี พบอัตราเสียชีวิตด้วยภาวะปอดติดเชื้อจากการสำลักสูงถึงเกือบ 30%

อาการที่มองไม่เห็นจากสำลักเงียบ

เนื่องจากการสำลักเงียบไม่มีอาการแสดงให้เห็น ทำให้ผู้ป่วยรวมถึงผู้ดูแลขาดความระมัดระวังและไม่ทราบว่ามีการสำลักอาหารหรือน้ำดื่มลงในทางเดินหายใจ จนเกิดภาวะแทรกซ้อน มีความผิดปกติให้เห็นรุนแรง เช่น ภาวะปอดอักเสบติดเชื้อ (Aspiration pneumonia) ซึ่งนำไปสู่อันตรายถึงแก่ชีวิตได้

นอกจากนี้ภาวะสำลักเงียบอาจไม่สามารถพบจากการตรวจประเมินทางคลินิกได้ เนื่องจากไม่แสดงอาการขณะทำการตรวจคัดกรองและการตรวจร่างกาย ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องได้รับประเมินจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยการกลืนแป้งทางรังสีหรือการส่องกล้องเพื่อตรวจหาว่าผู้ป่วยมีภาวะสำลักเงียบหรือไม่และทำการป้องกันรักษาได้ทันท่วงที

กรณีผู้ป่วยมีการสำลักเงียบจนเกิดภาวะหลอดลมอักเสบหรือปอดอักเสบติดเชื้อ อาจมีอาการดังต่อไปนี้

  • มีไข้ ไอมีเสมหะ
  • หายใจลำบากหรือหอบเหนื่อย
  • เจ็บแน่นหน้าอก
  • ซึมลง

ซึ่งเมื่อพบสัญญาณเหล่านี้ต้องหยุดป้อนอาหารทางปากและพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที

สังเกตอย่างไรว่าผู้สูงอายุมีปัญหา กลืนลำบาก

  • กลืนน้ำลายไม่ลง หรือมีน้ำลายไหลตลอด
  • มีเศษอาหารค้างในช่องปาก
  • มักบ่นว่า "กลืนไม่ลง" รู้สึกเหมือนมีก้อนจุกอยู่ในลำคอ
  • ต้องกลืนซ้ำหลายๆ ครั้ง
  • ไอ หรือสำลักขณะกินอาหารหรือดื่มน้ำ
  • อาหารและน้ำขย้อนออกมาหลังจากกลืนไปแล้ว
  • กินได้น้อย น้ำหนักตัวลดลง

วิธีการป้องกันการเกิดอาการสำลักเงียบ

เมื่อผู้ป่วยได้รับการตรวจประเมินแล้ว ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะให้การดูแลรักษาภาวะกลืนลำบากตามปัญหาที่พบเพื่อป้องกันการสำลักอาหารและน้ำ ประกอบด้วย การปรับรูปแบบอาหารที่เหมาะสม การปรับท่าทางของผู้ป่วย การปรับวิธีการให้อาหาร ปริมาณน้ำและอาหารที่ควรได้ต่อวัน การดูแลสุขอนามัยในช่องปาก รวมถึงการออกกำลังกายฟื้นฟูความสามารถในการกลืนของผู้ป่วยด้วย

References

คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?