คอเอียงในเด็ก

คอเอียงในเด็ก

HIGHLIGHTS:

  • คอเอียงในเด็ก หรือ ภาวะคอเอียง (Torticollis) พบได้ตั้งแต่แรกเกิด สามารถสังเกตได้ตั้งแต่อายุประมาณ 2-4 สัปดาห์  โดยสังเกตความผิดปกติจาก ศีรษะที่เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง และคางหันไปทางไหล่ฝั่งตรงข้าม อาจคลำพบลักษณะคล้ายก้อนที่กล้ามเนื้อคอด้านข้าง บางรายอาจมีรูปหน้าเบี้ยวเล็กน้อย
  • ภาวะคอเอียงเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ส่วนใหญ่สามารถแก้ไขให้หายได้ และมักไม่จำเป็นต้องผ่าตัด หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที

คอเอียง เป็นภาวะที่พบบ่อย โดยเฉพาะในทารกแรกเกิดถึงวัยขวบปีแรก ทำให้ศีรษะเอียงไปด้านหนึ่งและคางหันไปอีกด้าน สัญญาณของภาวะ "คอเอียงในเด็ก" ที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม การวินิจฉัยและการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้องตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่ ป้องกันภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว เช่น ศีรษะเบี้ยว หรือส่งผลด้านพัฒนาการของเด็ก
 

คอเอียงในเด็ก หรือ ภาวะคอเอียง (Torticollis) คืออะไร มีอาการเป็นอย่างไร ?

คอเอียง (Torticollis) คือภาวะที่กล้ามเนื้อคอข้างใดข้างหนึ่งตึงตัวหรือหดสั้นผิดปกติ ทำให้ศีรษะเอียงไปด้านหนึ่ง และคางหันไปทางไหล่ฝั่งตรงข้าม สามารถสังเกตเห็นลักษณะนี้ได้ตั้งแต่เด็กอายุประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยเด็กมักจะหันหน้าไปทางเดียว หรือบางรายอาจมีรูปหน้าเบี้ยวเล็กน้อย เมื่อคลำกล้ามเนื้อคอด้านข้าง อาจพบลักษณะคล้ายก้อน ซึ่งเป็นผลจากพังผืดหรือการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้จำกัดการเคลื่อนไหวของศีรษะและลำคอ

คอเอียงเกิดจากอะไร ?

คอเอียงในเด็กสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ

  • คอเอียงแต่กำเนิด (Congenital Muscular Torticollis - CMT) เป็นภาวะที่พบบ่อยที่สุด เชื่อว่าเกิดจากการที่กล้ามเนื้อขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านข้างของลำคอ (Sternocleidomastoid muscle) หดสั้นหรือเป็นพังผืด ซึ่งอาจมีปัจจัยมาจาก
    • พันธุกรรม
    • ท่าทางของทารกในครรภ์ ศีรษะทารกถูกกดทับอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลานานในมดลูก
    • การคลอดที่ยากลำบาก หรือการใช้เครื่องมือช่วยคลอด อาจทำให้กล้ามเนื้อคอได้รับการบาดเจ็บเล็กน้อย
  • คอเอียงจากความผิดปกติของกระดูกสันหลังส่วนคอ เช่น กระดูกคอผิดรูปตั้งแต่กำเนิด หรือมีการเชื่อมติดกันของกระดูกคอ 
  • คอเอียงจากปัญหาการมองเห็น ลูกน้อยอาจมีสายตาผิดปกติ เช่น ตาเขสายตาเอียงมาก ทำให้ต้องเอียงคอเพื่อปรับการมองเห็นให้ชัดเจนขึ้น
  • คอเอียงจากปัญหาของระบบประสาท เช่น เนื้องอกในสมอง หรือความผิดปกติทางระบบประสาทอื่นๆ (พบน้อยมาก)
  • คอเอียงจากการติดเชื้อ/การอักเสบ เช่น การติดเชื้อในลำคอ ต่อมน้ำเหลืองโต หรือการอักเสบของข้อกระดูกคอ (เช่น Grisel's Syndrome)
  • คอเอียงที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น คอเอียงจากท่าทาง เกิดจากการที่ทารกชอบนอนหันศีรษะไปด้านใดด้านหนึ่งเป็นประจำ ทำให้กล้ามเนื้อคอข้างนั้นตึงและอาจมีศีรษะแบนผิดรูปร่วมด้วย
     

ลูกคอเอียง สังเกตอาการคอเอียงในเด็กได้อย่างไร?

  • ศีรษะเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง และคางหันไปทางไหล่ฝั่งตรงข้าม
  • ลูกมีท่าทางไม่สบายหรือไม่พอใจเมื่อพยายามหันศีรษะไปยังด้านตรงข้าม
  • ชอบหันหน้าไปทางเดียวตลอดเวลา
  • หากมีคอเอียงแต่กำเนิด อาจคลำพบก้อนเล็กๆ คล้ายพังผืดที่กล้ามเนื้อคอด้านข้าง
  • ในบางรายอาจเริ่มเห็น รูปหน้าไม่สมมาตร หรือ ศีรษะแบน ด้านใดด้านหนึ่ง หากปล่อยไว้เป็นเวลานาน

หากมีอาการคอเอียงดังที่กล่าวมา ควรรีบพาไปพบกุมารแพทย์ หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูกเด็ก  เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น รูปหน้าและศีรษะผิดรูปถาวรได้

การรักษาคอเอียงในเด็กทำอย่างไรได้บ้าง ?

การรักษาคอเอียงส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคอเอียงแต่กำเนิด มักจะประสบความสำเร็จสูงและ ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด หากเริ่มรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ  สำหรับคอเอียงที่ไม่รุนแรงมาก หรือคอเอียงจากท่าทาง แพทย์อาจแนะนำให้สังเกตอาการและทำการบริหารที่บ้านอย่างสม่ำเสมอ วิธีการรักษาหลักๆ ได้แก่

  • การทำกายภาพบำบัด เป็นวิธีการรักษาหลักและสำคัญที่สุดสำหรับคอเอียงแต่กำเนิด นักกายภาพบำบัดจะสอนคุณพ่อคุณแม่ถึงท่าทางการยืดกล้ามเนื้อคอที่ตึง และการบริหารกล้ามเนื้อคอที่อ่อนแรง เพื่อให้กล้ามเนื้อคอทั้งสองข้างมีความสมดุลกัน
  • ส่งเสริมให้เด็กหันศีรษะและลำคอไปยังด้านที่ไม่ถนัด เช่น จัดของเล่น ป้อนนม จัดท่านอนหงายให้ศีรษะหันไปด้านที่ไม่ถนัด หรือใช้หมอนหลุม/หมอนรองศีรษะเพื่อป้องกันศีรษะแบน
  •  กระตุ้นให้นอนคว่ำ (Tummy Time) เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อคอและลำตัว ซึ่งจำเป็นต่อพัฒนาการตามวัย
  • การรักษาด้วยยา ในบางกรณีที่คอเอียงเกิดจากการอักเสบหรือการติดเชื้อ แพทย์อาจพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะหรือยาแก้อักเสบ
  • การผ่าตัด หากเด็กอายุมากกว่า 1 ปีแล้ว แต่ไม่ตอบสนองต่อการทำกายภาพบำบัดอย่างเต็มที่ หรือมีความรุนแรงของกล้ามเนื้อหดสั้นมาก ทางเลือกสุดท้ายคือการผ่าตัด โดยศัลยแพทย์กระดูกเด็กจะทำการยืดกล้ามเนื้อที่หดสั้นให้ยาวขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังผ่าตัดยังคงต้องทำกายภาพบำบัดต่อเนื่อง เพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะคอเอียงมีอะไรบ้าง

  • ศีรษะและใบหน้าผิดรูป (Plagiocephaly and Facial Asymmetry) หากเด็กชอบนอนหันศีรษะไปด้านเดียวเป็นเวลานาน อาจทำให้ศีรษะแบนด้านที่ถูกกดทับ และใบหน้าไม่สมมาตรได้ การสลับท่าทางและกระตุ้นให้เด็กหันศีรษะเป็นประจำจะช่วยลดปัญหานี้
  • พัฒนาการล่าช้า: การที่เด็กเอียงคอหรือมีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว อาจส่งผลต่อพัฒนาการด้านการมองเห็น การคลาน หรือการทรงตัวได้
  • ปัญหาทางสายตา: หากคอเอียงเกิดจากปัญหาทางสายตา หรือส่งผลให้การมองเห็นไม่สมบูรณ์ อาจต้องมีการตรวจและแก้ไขปัญหาด้านสายตาเพิ่มเติม

ควรดูแลเอาใจใส่และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด  เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว 

คอเอียงในเด็กเป็นภาวะที่พบได้บ่อย และส่วนใหญ่เกิดจากกล้ามเนื้อคอตึง ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการทำกายภาพบำบัดและการดูแลที่ถูกต้องตั้งแต่เนิ่นๆ หากผู้ปกครองมีความกังวล หรือสังเกตเห็นอาการที่กล่าวมาข้างต้น การรีบพาเด็กไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการดูแลรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีและเติบโตอย่างสมบูรณ์

คะแนนบทความ