คอเอียง เป็นภาวะที่พบบ่อย โดยเฉพาะในทารกแรกเกิดถึงวัยขวบปีแรก ทำให้ศีรษะเอียงไปด้านหนึ่งและคางหันไปอีกด้าน สัญญาณของภาวะ "คอเอียงในเด็ก" ที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม การวินิจฉัยและการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้องตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่ ป้องกันภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว เช่น ศีรษะเบี้ยว หรือส่งผลด้านพัฒนาการของเด็ก
คอเอียง (Torticollis) คือภาวะที่กล้ามเนื้อคอข้างใดข้างหนึ่งตึงตัวหรือหดสั้นผิดปกติ ทำให้ศีรษะเอียงไปด้านหนึ่ง และคางหันไปทางไหล่ฝั่งตรงข้าม สามารถสังเกตเห็นลักษณะนี้ได้ตั้งแต่เด็กอายุประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยเด็กมักจะหันหน้าไปทางเดียว หรือบางรายอาจมีรูปหน้าเบี้ยวเล็กน้อย เมื่อคลำกล้ามเนื้อคอด้านข้าง อาจพบลักษณะคล้ายก้อน ซึ่งเป็นผลจากพังผืดหรือการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้จำกัดการเคลื่อนไหวของศีรษะและลำคอ
คอเอียงในเด็กสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ
หากมีอาการคอเอียงดังที่กล่าวมา ควรรีบพาไปพบกุมารแพทย์ หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูกเด็ก เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น รูปหน้าและศีรษะผิดรูปถาวรได้
การรักษาคอเอียงส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคอเอียงแต่กำเนิด มักจะประสบความสำเร็จสูงและ ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด หากเริ่มรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ สำหรับคอเอียงที่ไม่รุนแรงมาก หรือคอเอียงจากท่าทาง แพทย์อาจแนะนำให้สังเกตอาการและทำการบริหารที่บ้านอย่างสม่ำเสมอ วิธีการรักษาหลักๆ ได้แก่
ควรดูแลเอาใจใส่และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว
คอเอียงในเด็กเป็นภาวะที่พบได้บ่อย และส่วนใหญ่เกิดจากกล้ามเนื้อคอตึง ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการทำกายภาพบำบัดและการดูแลที่ถูกต้องตั้งแต่เนิ่นๆ หากผู้ปกครองมีความกังวล หรือสังเกตเห็นอาการที่กล่าวมาข้างต้น การรีบพาเด็กไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการดูแลรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีและเติบโตอย่างสมบูรณ์