ปลุกไฟรักให้ทันวาเลนไทน์ แก้ไขปัญหาเรื่องบนเตียง

• ปัญหาเรื่องบนเตียง อาจมาจากหลายสาเหตุ อาทิ เรื่องลูก เรื่องงาน หรือเรื่องสุขภาพ จนทำให้ไม่เกิดความต้องการทางเพศ โดยเกิดได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิง  
• ในเพศชาย อาจพบว่าสมรรถภาพทางเพศลดลงจากโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ และอาจพบปัญหานกเขาไม่ขัน ส่วนเพศหญิง โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากภาวะวัยทอง 
• เชื้อโควิด-19 สามารถติดต่อผ่านสารคัดหลั่งระหว่างมีเพศสัมพันธ์ได้ เช่น น้ำลาย น้ำมูก น้ำตา เลือด ดังนั้น การรู้จักคู่นอนของตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรค 

เซ็กส์ ถือเป็นเรื่องสำคัญของชีวิตคู่ เพราะถือเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีให้กัน หากมีปัญหาระหว่างกันก็จะทำให้แตกหักได้ยากขึ้น เราจึงต้องมีการคุยกันในทุกเรื่องไม่เว้นเรื่องเซ็กส์เพื่อหาจุดตรงกลางในการสร้างความสัมพันธ์ให้ทั้งเราและคู่รักมีความสุขร่วมกันตลอดต่อไป

ความเชื่อนี้ไม่จริง เพราะส่วนใหญ่การหมดไฟในเรื่องเซ็กส์มักเกิดจาก “การไม่มีเวลา” การเล้าโลมจึงไม่ใช่สาเหตุหลัก  เพราะการเล้าโลมนั้น เป็นเพียงแค่ตัวช่วยของเรื่องบนเตียง โดยเราสามารถเล้าโลมคู่รักของเราในเรื่องอื่นๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเอาใจใส่ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งจะทำให้สามารถสานต่อไปจนถึงเรื่องบนเตียงได้ หรืออาจสร้างสีสันในเรื่องเซ็กส์ให้กับคู่รักของเราได้ด้วยการพูดคุยตกลงระหว่างกันก่อนใช้อุปกรณ์หรือของเล่น โดยเราสามารถใช้เองหรือให้คู่นอนใช้กับเราก็ได้

ปัญหาเรื่องบนเตียงอาจมาจากหลายสาเหตุ เช่น ความเครียดในการเลี้ยงลูก ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน หรือแม้แต่ปัญหาสุขภาพ จนทำให้ความต้องการทางเพศลดลง ซึ่งเราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนท่าทางในการมีเซ็กส์ เพิ่มความแปลกใหม่และเพิ่มสีสัน โดยหากมีลูก อาจนำลูกไปฝากญาติให้ช่วยดูแล เพื่อให้มีเวลาอยู่ด้วยกันสองคน

ในกรณีที่ไม่อยากมีเซ็กส์เพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเหนื่อยจากงานจนไม่อยากทำอะไร ควรมีการพูดคุยถึงความเข้าใจและความต้องการให้ตรงกัน เพื่อครองชีวิตคู่ให้อยู่ได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่เกิดปัญหาการนอกใจขึ้น

ในส่วนของเรื่องสุขภาพร่างกายเองก็มีผลต่อความต้องการทางเพศเช่นกัน ในเพศชายที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ อาจส่งผลให้มีความต้องการทางเพศลดลง หรืออาจเป็นเรื่องนกเขาไม่ขัน อันเกิดจากการหมดสมรรถภาพทางเพศ โดยเฉพาะหากเกิดขึ้นกับผู้ชายอายุระหว่าง 40-50 ปี ควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ เพราะยังไม่ใช่วัยที่ควรเกิดโรคดังกล่าว โดยโรคนี้สามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยได้ เช่น ยาเพิ่มฮอร์โมน การทำช็อคเวฟ (Shock wave) เป็นต้น  

ส่วนในเพศหญิง สิ่งที่มีปัญหาและน่ากังวลมากที่สุด  คือ วัยทอง เป็นวัยที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนค่อยๆ หมดลง โดยค่าเฉลี่ยวัยทองของคนไทยคือ 48-52 ปี  หากเกิดขึ้นก่อนอายุ 48 ปี ถือว่าเป็นโรค ควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ หรือหากเป็นกรณีอื่น เช่น ไม่พอใจในรสชาติเซ็กส์ของคู่รัก จนต้องไปมีเซ็กส์กับคนอื่นอยู่เรื่อยๆ และหยุดการมีเซ็กส์ไม่ได้ ก็ถือเป็นโรคทางเพศ และควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์เช่นกัน 

ในกรณีที่ทั้งคู่ไม่มีอารมณ์ทางเพศ การออกกำลังกายจำพวกโยคะ พิลาทิส จะช่วยทำให้มีสมรรถภาพทางเพศที่ดีขึ้นและเกิดการมีเซ็กส์ได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องเซ็กส์อาจจะไม่ใช่แค่เรื่องของคู่รักเท่านั้น แต่อาจเป็นเรื่องภายในครอบครัวได้อีกด้วย พ่อกับแม่ควรให้คำแนะนำและคำปรึกษาในเรื่องเซ็กส์กับลูก เพื่อให้ลูกรู้เท่าทันและเตรียมพร้อมสำหรับก้าวต่อไปในวัยผู้ใหญ่ 

การพูดคุยเรื่องเซ็กส์กับลูก ต้องดูที่เพศ วัยและความรับผิดชอบของลูกเป็นหลัก เพื่อที่คุณพ่อคุณแม่จะได้สามารถให้คำปรึกษาและคำแนะนำที่เหมาะกับช่วงวัยนั้นๆ ได้ หากลูกของคุณอยู่ในวัยเรียน ซึ่งเป็นวัยที่ยังไม่สามารถรับผิดชอบตัวเองได้หากมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ควรมีการตักเตือนลูก ว่าต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนจะทำอะไร ถามตัวเองอยู่เสมอว่าพร้อมรับผิดชอบสิ่งที่ทำลงไปได้หรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาวที่อาจเกิดขึ้น หากประเมินตนเองแล้วว่ามีความต้องการจริงๆ ควรรับผิดชอบต่อตนเองและคู่รักด้วยการคุมกำเนิดและใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งขณะมีเพศสัมพันธ์ 

หากเป็นวัยที่โตพอสามารถรับผิดชอบตนเองได้แล้ว ผู้ปกครองอาจไม่ใช่คนสำคัญในการตัดสินใจอีกต่อไป ลูกสามารถประเมินถึงสิ่งต่างๆ และเลือกปฏิบัติได้ด้วยตนเอง หากยังไม่พร้อมในการดูแลชีวิตหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นมา ก็ต้องมีการป้องกัน สวมถุงยางอนามัยก่อนมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง หรือหากพร้อมแล้ว ก็สามารถเลือกปฏิบัติได้ตามความต้องการเพราะถือว่าเป็นวัยที่สามารถรับผลการกระทำของตนเองได้แล้ว 

ดังนั้น การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์กับลูก ต้องดูที่เพศ วัย และความรับผิดชอบของลูกเป็นหลัก เราจึงจะสามารถให้คำปรึกษาและคำแนะนำที่เหมาะสมกับช่วงวัยนั้นๆ ได้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องสอนให้ลูกรู้ตนเองและไตร่ตรองผลของการกระทำของตนเองอยู่เสมอ 

สิ่งหนึ่งที่ทุกคนอาจกังวลในการมีเพศสัมพันธ์ในปัจจุบัน คือ โรคโควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างรวดเร็วและอาจอันตรายถึงชีวิต แล้วอย่างนี้ เราจะมีเซ็กส์ได้หรือไม่  

โรคโควิด-19 สามารถติดต่อผ่านทางสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก น้ำตา เลือด เป็นต้น ซึ่งการมีเซ็กส์นั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งดังกล่าวได้ ดังนั้น การใส่แมสก์ระหว่างมีเซ็กส์จึงไม่จำเป็นเพราะไม่สามารถป้องกันโรคโควิด-19 ได้ หากมีความกังวลว่าจะติดเชื้อโควิด-19 ขณะมีเซ็กส์ สิ่งที่ดีที่สุด คือ เราต้องรู้จักคู่นอนของเราให้ดีที่สุด หลีกเลี่ยงการมีความสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า หรือหากต้องมีจริงๆ ควรมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเพื่อป้องกันทั้งตนเองและคนใกล้ชิด 

เรื่องเซ็กส์ในปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องที่น่าอายอีกต่อไป เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ หลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องปิดบัง เราสามารถพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ได้เสมือนเรื่องดินฟ้าอากาศ เพราะเซ็กส์ถือเป็นเรื่องทั่วไปในการดำเนินชีวิตเราเช่นกัน