อาหารเป็นพิษ (Food Poisoning) คือภาวะที่เกิดจากการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่ปนเปื้อน เช่น แบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต หรือสารพิษที่เกิดจากจุลินทรีย์ ทำให้เกิดอาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสีย บางครั้งพบในผู้ป่วยหลายรายที่รับประทานอาหารร่วมกัน อาการสามารถแสดงอย่างรวดเร็วหลังจากรับประทานอาหารหรือหลายวันจนถึงสัปดาห์ ทั้งนี้ แต่ละคนอาจมีระยะเวลาในการตอบสนองต่อการติดเชื้อหรือสารพิษและมีอาการและความรุนแรงแตกต่างกันได้
อาหารที่ปนเปื้อนแบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต หรือสารเคมีอันตรายสามารถก่อให้เกิดโรคได้มากกว่า 200 ชนิด ตั้งแต่อาการท้องร่วงไปจนถึงโรคมะเร็ง อีกทั้งยังก่อให้เกิดภาวะขาดสารอาหาร ซึ่งส่งผลกระทบโดยเฉพาะกับทารก เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ
อาหารเป็นพิษเกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่มีการปนเปื้อนเชื้อโรค ทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส หรือสารพิษตามธรรมชาติทั้งโลหะหนักและสารพิษที่สัตว์สร้างขึ้น
2. เชื้อไวรัสที่ก่อโรคในอาหาร
3. พยาธิและเชื้ออื่นๆ ที่ปนเปื้อนในอาหาร
การควบคุมปัจจัยเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากอาหารเป็นพิษและทำให้อาหารปลอดภัย
อาการของอาหารเป็นพิษมักเกิดภายในไม่กี่ชั่วโมงหรืออาจเป็นวันหลังได้รับสารพิษ ผู้ป่วยจะมีอาการ เช่น
อาการอาหารเป็นพิษที่ควรมาพบแพทย์โดยด่วน
ในผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ภาวะอาหารเป็นพิษมักหายเองได้โดยไม่ต้องพบแพทย์ แต่หากมีอาการเหล่านี้ควรไปพบแพทย์โดยด่วน
มักใช้การวินิจฉัยจากประวัติและการตรวจร่างกาย การสังเกตและให้ประวัติเกี่ยวกับอาการและลักษณะของอุจจาระอาจช่วยในการวินิจฉัยเชื้อที่เป็นสาเหตุได้ แพทย์อาจทำการตรวจเพิ่มเติมโดยการตรวจเลือด หรือตรวจอุจจาระเพื่อตรวจหาชนิดของเชื้อที่เป็นสาเหตุ แต่บางครั้งก็ไม่สามารถบอกชนิดของเชื้อที่ทำให้เกิดอาการได้
อาหารเป็นพิษส่วนใหญ่สามารถหายเองได้โดยการดูแลตนเองและรักษาตามอาการ เช่น
ถึงแม้ว่าผู้ป่วยอาหารเป็นพิษส่วนใหญ่สามารถหายเองได้ แต่มีผู้ป่วยบางส่วนที่มีโอกาสเกิดอาการรุนแรง ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อภาวะอาหารเป็นพิษที่มีอาการรุนแรง เช่น
ภาวะอาหารเป็นพิษสามารถป้องกันได้โดยการปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยและการบริโภคอาหารที่ปลอดภัย ดังนี้
1. การเลือกรับประทานอาหารที่ปลอดภัย
2. การรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล
3. การจัดเก็บและเตรียมอาหารอย่างปลอดภัย
4. หลีกเลี่ยงอาหารที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อน