การวิเคราะห์ความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูกในการฝังตัว โดยวิธี ERA Test (Uterine Receptivity Test)

การวิเคราะห์ความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูกในการฝังตัว โดยวิธี ERA Test (Uterine Receptivity Test)

การวิเคราะห์ความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูกในการฝังตัว โดยวิธี ERA Test

ERA Test เป็นการวิเคราะห์ความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูกในการฝังตัว หรือ Endometrial Receptivity Analysis (ERA) เป็นการทดสอบประเมินความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูกที่บริษัท IGENOMIX เป็นผู้ออกแบบ พัฒนา รวมทั้งได้รับสิทธิบัตร (PCT/ES2009/000368) เครื่องมือวินิจฉัยโรคระดับโมเลกุลนี้ช่วยให้วิเคราะห์การแสดงออกของยีน 238 ยีนที่เกี่ยวกับความพร้อมในการฝังตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก เครื่องมือนี้ประกอบด้วย microarray ของแต่ละคนและดีเอ็นเอตรวจติดตาม (probes) ของยีน 238 ยีน โดยตัวอย่าง RNA ที่ได้มาจากเยื่อบุโพรงมดลูกจะถูกจับคู่กัน (hybridize) หลังจากการไฮบริไดเซชั่น ความเข้มข้นของสัญญาณจะถูกสแกนและ ERA predictor จะบ่งชี้ได้ว่าเยื่อบุนั้นมีความพร้อมหรือไม่พร้อมรับการฝังตัว ซึ่งขึ้นอยู่กับผลการวิเคราะห์

วัตถุประสงค์

การทำเพื่อช่วยให้เราประเมินได้ว่าเยื่อบุมดลูกมีภาวะอย่างไร และช่วยบอกได้ในระดับยีนว่ามีความพร้อมหรือไม่พร้อมรับการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว หากเยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ในภาวะที่ไม่พร้อมที่จะรับการฝังตัว การวิเคราะห์นี้จะช่วยให้เราปรับเพื่อให้ตามระยะเวลาที่เหมาะสมให้ไข่ฝังตัวได้สำหรับผู้ป่วยรายนั้น

ใครควรทำ และเพราะอะไร

  • การทำ Test ดังกล่าวเหมาะกับผู้ป่วยที่ไม่ประสบผลสำเร็จในการรักษาภาวะการมีบุตรยากมาแล้ว ทั้งๆ ที่ตัวอ่อนมีความสมบูรณ์ (ไม่ประสบความสำเร็จอย่างน้อย 3 ครั้งสำหรับผู้ป่วยอายุน้อย และอย่างน้อย 2 ครั้งในผู้ป่วยที่มีอายุ 37 ปีขึ้นไป) และพบว่า 25% ของผู้ป่วยเหล่านี้มีช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน
  • การทดสอบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีโพรงมดลูกที่สมบูรณ์ และมีเยื่อบุโพรงมดลูกที่มีความหนาปกติ (6 มม. หรือมากกว่า)

ประโยชน์

วิธีวัดความพร้อมการฝังตัวของตัวอ่อนนั้นต้องดูจากเยื่อบุโพรงมดลูก อย่างไรก็ดี วิธีการนี้ยากที่จะบอกได้ว่าผู้ป่วยนั้นมีความพร้อมมีบุตรหรือเป็นหมัน การทำนั้นมีความละเอียดและตรวจสอบได้ลึกในระดับยีนว่าเยื่อบุโพรงมดลูกมีความพร้อมให้ตัวอ่อนฝังตัวได้หรือไม่ จึงสามารถบอกได้ว่ามีโอกาสที่ตัวอ่อนจะฝังตัวได้หรือไม่ก่อนที่แพทย์จะเริ่มกระบวนการช่วยตั้งครรภ์

การเก็บเนื้อเยื่อและการจัดส่ง

  • ตัวอย่างเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกจะถูกนำไปใส่ในหลอด ERA Cryotube และเก็บไว้ในอุณหภูมิต่ำ (4-8 องศาเซลเซียส) อย่างน้อย 4 ชั่วโมง
  • การจัดส่งเนื้อเยื่อมายังห้องแล็บจะขนส่งในอุณหภูมิปกติ และใช้เวลาไม่เกิน 24-48 ชั่วโมง ตัวอย่างเนื้อเยื่อจะต้องมีอุณหภูมิไม่เกิน 35 องศาเซลเซียสเมื่อมาถึงห้องแล็บ

วิธีการ ขั้นตอนสำคัญในการทดสอบ

  • เก็บ Messenger RNA (mRNA)
  • ตรวจสอบคุณภาพของ mRNA ที่เก็บมา
  • ติดฉลากตัวอย่างเนื้อเยื่อและทำความสะอาด
  • ทำ mRNA hybridization กับ ERA Array
  • ล้างและสแกน Array
  • ตรวจวัดความเข้มข้นของสัญญาณและจัดลำดับโดยใช้คอมพิวเตอร์

ข้อจำกัดของการทดสอบนี้

การทำ ERA Test มีความจำเพาะ 0.8857 และมีความไว 0.9957 ในการวิเคราะห์ความพร้อมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อน การตัดเนื้อเยื่อมาพิสูจน์แม้จะเป็นวิธีที่ง่ายแต่มีความเสี่ยง (น้อยกว่า 5%) ที่อาจเก็บตัวอย่างเยื่อบุโพรงมดลูกมาน้อยเกินไปหรือไม่มีคุณภาพเพียงพอ ทำให้ไม่สามารถทดสอบด้วยวิธีนี้ได้ และต้องมีการเก็บเนื้อเยื่อใหม่

เมื่อไรจึงจะย้ายตัวอ่อน

การย้ายตัวอ่อนจะทำตามวงจรและวันเดียวกันกับที่ได้รับผลตรวจความพร้อมในการฝังตัว ผลของการตรวจความพร้อมในการฝังตัวจะบ่งชี้วันที่เหมาะสำหรับการย้ายตัวอ่อน (D5-6) หากจะต้องมีการย้ายตัวอ่อนอายุ 3 วัน หมายความว่าการย้ายตัวอ่อนจะต้องทำก่อนหน้านั้น 2 วัน

คะแนนบทความ