การผ่าตัดกระดูกสันหลังมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับโรคหรือความผิดปกติของกระดูกสันหลัง เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อน กระดูกสันหลังเคลื่อน โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังเสื่อม กระดูกสันหลังหัก หรือภาวะกระดูกสันหลังคด เป็นต้น ซึ่งวิธีการผ่าตัดหลัก ๆ มีดังนี้
เป็นการผ่าตัดแบบดั้งเดิมที่เปิดแผลขนาดใหญ่ ศัลยแพทย์จะเลาะเนื้อเยื่อเพื่อเข้าถึงกระดูกสันหลัง ใช้ในกรณีที่มีความผิดปกติรุนแรง มีความซับซ้อน จำเป็นต้องเห็นโครงสร้างภายในอย่างชัดเจน หรือต้องใส่อุปกรณ์ยึดตรึง
ใช้เครื่องมือพิเศษผ่านแผลขนาดเล็ก ทำให้เสียเลือดน้อย ฟื้นตัวเร็ว อาจจะใช้กล้องไมโครสโคปร่วมด้วย ลดความเสียหายต่อกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อรอบ ๆ เหมาะกับผู้ป่วยที่มีหมอนรองกระดูกเคลื่อน กระดูกสันหลังเสื่อมหรือกระดูกสันหลังตีบ
ใช้กล้องเอนโดสโคปขนาดเล็ก (8-10 มม.) และเครื่องมือทำการผ่าตัดผ่านกล้อง เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว รักษาตัวในโรงพยาบาล 1 คืน หรือรักษาแบบผู้ป่วยนอกในกรณีผ่าแบบไม่ดมยาสลบ แผลเป็นมีขนาดเล็กมาก (8-10 มม.) สามารถรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทหรือภาวะกระดูกสันหลังตีบกดทับเส้นประสาท หรือแม้แต่การใส่โลหะตรึงกระดูกสันหลังผ่านผิวหนังได้โดยไม่ต้องผ่าตัดแบบเปิด
ใช้ในกรณีที่ต้องการเชื่อมข้อกระดูกสันหลังเข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดความมั่นคง เหมาะกับโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน หรือกระดูกสันหลังหัก มักใช้ร่วมกับอุปกรณ์ดามกระดูก เช่น แผ่นโลหะหรือสกรู และบางรายจำเป็นต้องใส่อุปกรณ์ระหว่างหมอนรองกระดูกสันหลังด้วย อาจจะผ่าตัดแบบเปิด ผ่าตัดแบบแผลเล็ก หรือผ่าตัดผ่านกล้องเอนโดสโคปก็ได้
ใช้ทดแทนหมอนรองกระดูกที่เสื่อมหรือเสียหาย ช่วยให้ผู้ป่วยยังคงเคลื่อนไหวกระดูกสันหลังได้ตามปกติ
เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการผ่าตัด ลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ป่วย
แต่ละวิธีมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกัน แพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมตามอาการและภาวะของผู้ป่วย
การผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้องเอนโดสโคป (Endoscopic Spine Surgery) เป็นเทคนิคการผ่าตัดที่ใช้กล้องขนาดเล็ก (Endoscope) และเครื่องมือเฉพาะทาง ผ่านแผลขนาดเล็ก (ประมาณ 5-10 มม.) เพื่อลดผลกระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง ลดความจำเป็นในการตัดกระดูกสันหลังบางส่วนที่ดี หลีกเลี่ยงการใส่โลหะดามกระดูกสันหลัง ลดการเสียเลือด ลดระยะเวลานอนในโรงพยาบาลและการเจ็บปวดหลังการผ่าตัด ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น สามารถลุกเดินได้ภายในระยะเวลา 4-6 ชั่วโมง หลังการผ่าตัด
โดยรวม มากกว่า 90 เปอร์เซ็นของผู้ป่วย สามารถผ่าตัดโดยใช้กล้องเอนโดสโคปได้
ก่อนเข้ารับการผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้อง แพทย์จะต้องทำการวินิจฉัยอย่างละเอียด เพื่อประเมินว่า ผู้ป่วยเหมาะสมกับการผ่าตัดหรือไม่ และระบุตำแหน่งที่ต้องผ่าตัดอย่างแม่นยำ ซึ่งการตรวจที่จำเป็น ได้แก่
การผ่าตัดแบบแผลเดียว ทำให้เนื้อเยื่อบอบซ้ำน้อยกว่า เจ็บน้อยกว่าและฟื้นตัวได้เร็วกว่าแบบ2 แผล แต่การผ่าตัดยากกว่า แพทย์ต้องใช้ระยะเวลาการฝึกฝนที่นานกว่าแบบ 2 แผล อีกทั้งการผ่าตัดแบบ 1 แผล จะใช้เครื่องมือที่ซับซ้อนและมีราคาแพงกว่าแบบ 2 แผลมาก
การผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้องเอนโดสโคปแบบ 1 แผล (Uniportal) ยังแบ่งเป็นอีกหลายเทคนิค เช่น Interlaminar Approach และเทคนิค Transforaminal Approach หรือ Extraforaminal Approach
การผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้อง มีความปลอดภัยสูงและฟื้นตัวเร็ว แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อนซ้ำ เส้นประสาทบาดเจ็บ หรือภาวะเลือดออกผิดปกติ ส่วนใหญ่เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบไม่บ่อยและสามารถจัดการได้ หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังผ่าตัด เช่น หลีกเลี่ยงการยกของหนัก ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และเข้ารับการตรวจติดตาม สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้
หากมีอาการผิดปกติหลังผ่าตัด เช่น ปวดรุนแรงขึ้น ชา อ่อนแรง หรือแผลบวมแดง ควรรีบพบแพทย์ทันที
การผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้อง เป็นการผ่าตัดที่มีการบอบซ้ำน้อย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วกว่า การผ่าตัดแบบเปิด (Open Surgery) อย่างมาก