การที่ลูกน้อยถือกำเนิดมาพร้อมกับนิ้วมือหรือนิ้วเท้าที่มีลักษณะแตกต่างไปจากปกติ ไม่ว่าจะเป็นนิ้วที่มากเกินไป น้อยเกินไป หรือมีรูปร่างผิดปกติ ในบางกรณี สามารถตรวจพบได้จากการทำอัลตราซาวด์ในช่วงตั้งครรภ์ อาจสร้างความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างมาก การทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะเหล่านี้ให้มากขึ้น จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายข้อสงสัยและเตรียมพร้อมรับมือได้อย่างถูกต้อง
สาเหตุส่วนใหญ่ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกันในช่วงที่ทารกกำลังก่อร่างสร้างอวัยวะในครรภ์มารดา ช่วงไตรมาสแรก เช่น:
สิ่งสำคัญคือ ความผิดปกติเหล่านี้ ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของพ่อแม่ และส่วนใหญ่ไม่ได้บ่งชี้ถึงปัญหาด้านพัฒนาการด้านอื่นๆ ของเด็กเสมอไป
การวินิจฉัยจะทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมักเป็นกุมารแพทย์ หรือศัลยแพทย์กระดูกและข้อเด็ก ซึ่งนอกจากการตรวจร่างกายอย่างละเอียด การซักประว้ติแล้ว และการเอกซเรย์ดูโครงสร้างของกระดูกเพื่อวางแผนการรักษา ในกรณีที่มีความผิดปกติที่ซับซ้อน หรือแพทย์สงสัยมีความผิดปกติของระบบอื่นๆ ร่วมด้วย อาจพิจารณาการตรวจเพิ่มเติม เช่น MRI, CT scan หรือการตรวจทางพันธุกรรม
การรักษาคือการทำให้มือหรือเท้าสามารถใช้งานได้ดีที่สุด และมีรูปลักษณ์ที่ยอมรับได้ การรักษาจะขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของความผิดปกติ รวมถึงอายุของเด็ก
สิ่งสำคัญ: การผ่าตัดมักจะทำในช่วงวัยที่เหมาะสม โดยเริ่มทำได้ตั้งแต่ 1 ขวบขึ้นไป ซึ่งศัลยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาจากชนิดของความผิดปกติ และพัฒนาการของเด็ก
การดูแลหลังการรักษาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว
ภาวะความผิดปกติของนิ้วมือและนิ้วเท้าตั้งแต่กำเนิด มีหลายรูปแบบ ทั้งนิ้วขาด นิ้วเกิน หรือนิ้วมีรูปร่างผิดธรรมชาติ การทำความเข้าใจสาเหตุ และเข้าใจภาวะนี้อย่างถูกต้อง รวมถึงการดูแลรักษาที่เหมาะสม จะช่วยให้เด็กสามารถใช้งานมือและเท้าได้ดีที่สุด เพื่อให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ทีมกุมารศัลยแพทย์ ที่โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล มีศักยภาพในการผ่าตัดแบบส่องกล้อง Minimally Invasive Surgery ซึ่งการผ่าตัดส่องกล้องแผลเล็กสำหรับเด็กและทารก (Newborn and Pediatric Minimally Invasive Surgery) จะใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กทำให้มีแผลเล็ก เพียง 2 มม. ลดการบาดเจ็บ และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
พร้อมห้องผ่าตัดแบบไฮบริด (Hybrid) ที่ใช้ Bi-plane Technology บนเครื่อง X-ray ถ่ายภาพได้หลายระนาบ ให้การรักษา และผ่าตัดเร่งด่วนทันที เพื่อเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถในการผ่าตัด รองรับผู้ป่วยที่เข้ามารับการผ่าตัดรักษาโรคซับซ้อน
และยังมีศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูเด็ก ที่ให้บริการกายภาพฟื้นฟูหลังการรักษา แบบสหสาขาวิชาชีพ (Multidisciplinary Care Team) รวมถึงเทคโนโลยีในการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย อาทิ หุ่นยนต์กายภาพ Robot-assisted Gait Training, Hybrid Assistive Limb (HAL) และ Redcord NEURAC เป็นต้น