Perfect smile ยิ้มแบบไหนให้ใจละลาย

Perfect smile ยิ้มแบบไหนให้ใจละลาย

HIGHLIGHTS:

  • นักวิจัยและทันตแพทย์ ได้ให้นิยามของรอยยิ้มที่สวยงามว่า ต้องเป็นรอยยิ้มที่ไม่ฝืนยิ้ม ไม่พยายามยิ้มมากเกินไปหรือยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก แต่ควรเป็นรอยยิ้มที่มีความกว้างเกินครึ่งหนึ่งของความกว้างของใบหน้า
  • การแปรงฟันเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้ฟันสะอาดได้ทั่วถึง จึงจำเป็นต้องใช้ไหมขัดฟันช่วยกำจัดเศษอาหารบริเวณซอกฟัน
  • การพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน จะเพื่อช่วยป้องกันฟันผุและปัญหาต่างๆ ที่อาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียฟันได้

หากเปรียบดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ รอยยิ้มก็คงเป็นเสมือนประตูมิตรภาพ ที่พร้อมเปิดกว้างเพื่อต้อนรับผู้พบเห็นให้ก้าวเข้าไปทำความรู้จัก แต่เมื่อใดก็ตามที่ประตูนั้นไม่กล้าเปิดออก เนื่องจากขาดความมั่นใจ หรืออาจมีปัญหาเกี่ยวกับฟัน จึงไม่กล้ายิ้ม เสมือนปิดกั้นมิตรภาพจากผู้พบเห็น

5 เทคนิครอยยิ้มสดใส

  1. ยิ้มกว้าง นักวิจัยและทันตแพทย์ ได้ให้นิยามของรอยยิ้มที่สวยงามว่าต้องเป็น รอยยิ้มที่สวยและดึงดูดใจ ไม่ควรฝืนยิ้ม หรือพยายามยิ้มมากเกินไป หรือยิ้มเพียงเล็กน้อยที่มุมปาก แต่ควรเป็นรอยยิ้มที่มีความกว้างเกินครึ่งหนึ่งของความกว้างของใบหน้า
  2. ความสมดุล ขณะยิ้มควรให้ริมฝีปากบนและริมฝีปากล่างมีความสมดุลกัน โดยให้กึ่งกลางริมฝีปากบนและล่างอยู่ตรงกับเส้นแนวกลางของใบหน้า ไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง
  3. ฟันบนโดดเด่น ขณะยิ้มควรให้เห็นฟันบนมากกว่าฟันล่าง โดยให้เห็นฟันล่างเพียงเล็กน้อย หรือไม่เห็นฟันล่างเลยก็ได้
  4. เหงือกสวยก็สำคัญ เหงือกที่มีสุขภาพดีควรมีสีชมพูอ่อน และไม่ควรยิ้มเห็นเหงือก (gummy smile) มากเกินไป ควรยิ้มให้ขอบล่างของริมฝีปากบนคลุมปิดส่วนคอฟันของฟันหน้าบน
  5. ฟันเรียงสวยงาม แน่นอนว่าผู้ที่มีฟันเรียงเป็นระเบียบ ย่อมยิ้มได้อย่างมั่นใจและสวยงามเสมอ ดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้สะอาดอยู่เสมอ โดยการพบทันตแพทย์ ปีละ 2 ครั้ง เป็นประจำทุกปี

5 วิธีดูแลฟันให้สวย

  1. การแปรงฟัน วิธีดูแลฟันที่ง่ายที่สุด ซึ่งเราทุกคนต้องทำทุกวัน การแปรงฟันให้ถูกวิธีต้องไม่แปรงฟันแรงเกินไป  และขนแปรงควรมีขนาดเล็กและอ่อนนุ่ม
  2. การใช้ไหมขัดฟัน การแปรงฟันเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้ฟันสะอาดได้ทั่วถึง จึงจำเป็นต้องใช้ไหมขัดฟันช่วยกำจัดเศษอาหารบริเวณซอกฟันทุกวัน  ซึ่งจะช่วยให้เหงือกแข็งแรงป้องกันโรคเหงือกอักเสบ และโรคฟันผุที่มักเกิดขึ้นง่ายบริเวณซอกฟัน
  3. หลีกเลี่ยงการทำลายฟัน เครื่องดื่มหลายชนิดอาจทำเกิดคราบที่ฟันได้ เช่น ชา กาแฟ และไวน์ รวมถึงการสูบบุหรี่ ซึ่งการใช้หลอดจะลดการเกิดคราบบนฟันได้ นอกจากนี้ไม่ควรใช้ฟันในการเปิดขวด หรือแกะถุงพลาสติก และการกัดของแข็ง เนื่องจากจะทำให้ฟันแตกหรือบิ่นได้
  4. ฟันขาวสดใส สีฟันของคนเรามีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามอายุและอาหารที่รับประทาน การดูแลทำความสะอาดฟันอย่างดีเป็นประจำและสม่ำเสมอสามารถทำให้ฟันขาวสดใสได้ แต่หากสีฟันยังมีการเปลี่ยนแปลง การฟอกสีฟัน สามารถช่วยให้สีฟันขาวขึ้น และมีรอยยิ้มสดใสขึ้นได้
  5. การพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน เป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลยเพื่อช่วยป้องกันฟันผุและปัญหาต่างๆ ที่อาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียฟัน ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้ใครหลายคนไม่กล้ายิ้ม

นอกจากการมีฟันสวยจะเพิ่มความมั่นใจให้มีรอยยิ้มสดใสแล้ว การมีสุขภาพฟันที่ดียังช่วยให้รับประทานอาหารได้อร่อยและเคี้ยวอาหารได้ละเอียด ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหาร รวมถึงอวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย ดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้สะอาดด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทุกวัน   หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดคราบสีที่ฟัน และไม่ใช้ฟันกัด ของแข็งที่จะทำให้ฟันแตกได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน หรือตามแพทย์นัด เพื่อขูดหินปูนและตรวจเช็คสุขภาพเหงือกและฟัน  เพื่อสุขภาพฟันที่ดีและยิ้มได้อย่างมั่นใจ

คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?