รู้ให้ลึกก่อนตัดสินใจรับวิตามินทางหลอดเลือด (IV Drip)

รู้ให้ลึกก่อนตัดสินใจรับวิตามินทางหลอดเลือด (IV Drip)

Highlight:

  • ดริปวิตามิน แตกต่างจากการรับวิตามินแบบอื่น ๆ เช่น การกิน การฉีดเข้ากล้าม การอมใต้ลิ้น หรือการทาครีม เพราะเป็นการส่งวิตามินและแร่ธาตุเข้าสู่หลอดเลือดโดยตรง ทำให้ร่างกายนำไปใช้ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัย
  • ก่อนดริปวิตามิน ควรแจ้งแพทย์หากมีภาวะสุขภาพบางอย่าง เช่น ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร มีโรคประจำตัว าวะไตเสื่อม หรือแพ้วิตามิน / ยา รวมถึงควรหลีกเลี่ยงหากมีไข้ หรือผื่นบริเวณที่จะสอดเข็ม ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
  • “ผลลัพธ์ของการดริปวิตามินอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับสุขภาพพื้นฐาน โรคประจำตัว และความต้องการของร่างกายแต่ละคน
     

ดริปวิตามิน หรือ IV Drip คืออะไร

ดริปวิตามิน หรือ IV Drip คือ การให้วิตามิน หรือแร่ธาตุ เข้าทางหลอดเลือดดำผ่านทางสายน้ำเกลือ ซึ่งร่างกายจะสามารถนำไปใช้ได้รวดเร็วกว่า และมีประสิทธิภาพกว่าการรับประทาน เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยของคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ไม่ชอบทานวิตามิน และต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว

การดริปวิตามิน เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่ต้องการเสริมความแข็งแรง เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว รวมถึงต้องการบำรุงผิวจากภายในสู่ภายนอก แต่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตนเอง
  • คนที่ทำงานหนัก หรือมีกิจวัตรประจำวันที่วุ่นวาย จนไม่ค่อยมีเวลาได้พักผ่อน ทำให้รู้สึกไม่สดชื่นระหว่างวัน จึงต้องการสร้างความกระปรี้กระเปร่าให้แก่ร่างกาย
     

ข้อควรระวังในการดริปวิตามิน

แม้ว่าการดริปวิตามินจะเป็นวิธีบูสต์ร่างกายที่น่าสนใจ และมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก แต่มีข้อควรระวังในคนบางกลุ่ม ที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับบริการ

  • หญิงตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตร
  • มีประวัติการแพ้ยา หรือ วิตามิน รวมถึงต้องแจ้งลักษณะอาการที่แพ้ว่าเป็นอย่างไร
  • โรคประจำตัว และยาที่รับประทานเป็นประจำ
  • ภาวะไตเสื่อมหรือไตวายเรื้อรัง
  • เป็นโรค G6PD ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายขาดเอนไซม์บางชนิด ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกง่าย
  • รับประทานยาต้านเกล็ดเลือด
  • รู้สึกไม่สบาย มีไข้สูง
  • มีผื่นหรือแผลบริเวณที่จะสอดเข็มเพื่อให้สารน้ำ เช่น ข้อพับแขน ข้อมือ หลังฝ่ามือ

IV Drip มีกี่สูตร อะไรบ้าง?

โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
  • Recovery shot สูตรฟื้นฟูร่างกาย
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกาย ผู้ที่มีอาการอ่อนล้า เหนื่อยง่าย หรือมีภาวะ Long COVID     
  • Advance immune booster สูตรเสริมภูมิต้านทานร่างกาย
เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยบ่อย มีผื่นหรือเป็นภูมิแพ้เรื้อรัง   
  • General formula Energy shot สูตรสำหรับผู้ที่อ่อนเพลียง่าย
เหมาะสำหรับผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ มีอาการอ่อนเพลียง่าย ความเครียดสะสมเรื้อรัง
  • Skin Rejuvenate and lighten สูตรสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวพรรณ

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวพรรณให้มีสุขภาพดี กระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย


สมิติเวช ศรีนครินทร์
  • Sport Recovery IV formula ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อและร่างกายก่อนและหลังออกกำลังกาย เหมาะกับนักกีฬา หรือผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือผู้ที่เตรียมลงแข่งกีฬา รวมถึงผู้ที่มีมวลกล้ามเนื้อน้อย มีอาการเมื่อยล้า อ่อนเพลีย หรือรับประทานโปรตีนไม่เพียงพอ
  • Brain IV formula ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้สมอง เหมาะกับผู้ที่มีอาการสมองล้า ไม่สดชื่น หรือต้องใช้สมองอยู่ตลอดเวลา
  • Immune Rebuild ช่วยเสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยบ่อย มีผื่นหรือเป็นภูมิแพ้เรื้อรัง   
  • Recovery IV formula ช่วยฟื้นฟูร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการอ่อนล้า เหนื่อยง่าย หรือมีภาวะ Long COVID
  • Super Bright IV formula เหมาะกับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวพรรณ ช่วยฟื้นฟูสุขภาพผิว ต่อต้านริ้วรอย เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว ช่วยรักษาความยืดหยุ่นและความอ่อนเยาว์ของผิว 
  • Skin IV formula ช่วยลดอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายให้ผิวพรรณเรียบเนียน กระจ่ายใส เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้ เป็นหวัด หรือเจ็บป่วยบ่อย สัมผัสแสงแดดเป็นประจำ มีปัญหาผิวหมองคลำ ต้องการบำรุงผิว 
  • Liver IV formula เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงตับ หรือ มีปัญหาตับอักเสบ สูตรนี้จะช่วยลดการอักเสบของตับ ลดอนุมูลอิสระ ขับสารพิษโลหะหนัก มีประวัติรับประทานยาปริมาณมาก ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ผู้ที่สัมผัสมลภาวะบ่อยๆ
  • Energy IV formula ช่วยเสริมพละกำลังความสดชื่น ป้องกันภาวะอ่อนล้า บำรุงปลายประสาท เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการอ่อนเพลียบ่อยๆ รับประทานอาหารไม่ค่อยได้ นอนดึกเป็นประจำ รวมไปถึงคนที่ออกกำลังกายประจำ

การดริปวิตามิน อันตรายไหม? มีข้อเสีย ผลข้างเคียงหรือข้อควรอะไรบ้าง?

การให้วิตามินทางหลอดเลือดดำ (IV Drip) ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยเมื่ออยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปริมาณ ความเข้มข้น ระยะเวลา และความถี่ของการให้วิตามินให้เหมาะสมกับสภาวะร่างกายของแต่ละบุคคล เพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
อย่างไรก็ตาม การดริปวิตามินควรทำในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีทีมแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ดีที่สุด

ขั้นตอนก่อนการดริปวิตามิน ทำอย่างไร ใช้เวลากี่นาที

ก่อนเข้ารับบริการดริปวิตามิน ผู้รับบริการจะได้รับการประเมินสุขภาพอย่างละเอียด โดยเริ่มจากการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ความดันโลหิต ชีพจร อุณหภูมิ และอัตราการหายใจ จากนั้นเข้าพบแพทย์เพื่อซักประวัติการเจ็บป่วย ประวัติการแพ้ยา รวมถึงตรวจร่างกายเบื้องต้น พร้อมพูดคุยถึงปัญหาสุขภาพหรือความต้องการเฉพาะบุคคล
ขั้นตอนนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้แพทย์สามารถออกแบบสูตรวิตามินที่เหมาะสมกับสภาวะร่างกายของแต่ละคนได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ก่อนเข้ารับวิตามินทางหลอดเลือด ทำไมต้องตรวจคัดกรองเอนไซน์ G6PD

ภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD เป็นภาวะทางพันธุกรรมที่พบได้บ่อยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ส่งผลให้ร่างกายขาดเอนไซม์ที่จำเป็นต่อการคงสภาพปกติของเซลล์เม็ดเลือดแดง เมื่อได้รับสารบางชนิดอาจทำให้เม็ดเลือดแดงแตกง่าย เกิดภาวะซีด ปัสสาวะสีเข้ม หรือภาวะแทรกซ้อนทางไตได้

ก่อนเข้ารับบริการดริปวิตามิน โรงพยาบาลจะมีการตรวจคัดกรองภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD เพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยการตรวจนี้ทำเพียงครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD จะไม่สามารถรับสูตรวิตามินทางหลอดเลือดที่มีความเข้มข้นของวิตามินบางชนิดได้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ดริปวิตามิน กี่ครั้งจึงจะเห็นผล

ผลลัพธ์ของการดริปวิตามินจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล โดยขึ้นอยู่กับสุขภาพพื้นฐาน ภาวะโรคประจำตัว รวมถึงความต้องการของแต่ละบุคคลเป็นสำคัญ โดยทั่วไปมักเริ่มทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ จำนวนครั้ง หรือ ความถี่ของการให้วิตามินควร  ภายใต้คำแนะนำและการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ร่างกายปรับสมดุลและตอบสนองต่อสารอาหารได้อย่างเหมาะสม

ผู้เข้ารับบริการส่วนใหญ่จะเริ่มรู้สึกถึงความสดชื่นและพลังงานที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก และเมื่อทำอย่างต่อเนื่องจะเห็นการเปลี่ยนแปลงและเห็นผลทางสุขภาพอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ผลลัพธ์และการตอบสนองอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรเข้ารับบริการอย่างสม่ำเสมอภายใต้คำแนะนำจากแพทย์

คำแนะนำหลังการดริปวิตามินทางหลอดเลือด

  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายสามารถนำวิตามินไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดที่ร้อนจัด และสัมผัสกับแสงแดดจัดเป็นเวลานาน
  • งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1-2 วัน และงดสูบบุหรี่ เพื่อลดปัจจัยทำร้ายผิวและสุขภาพ

การดริปวิตามินที่โรงพยาบาลสมิติเวช ได้รับการพัฒนาสูตรโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้รับบริการในทุกขั้นตอน แต่ละสูตรได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อช่วยเสริมสร้าง ฟื้นฟู และปรับสมดุลของร่างกายให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะบุคคล พร้อมตอบโจทย์ด้านสุขภาพอย่างตรงจุดภายใต้มาตรฐานการดูแลระดับโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ

ดริปวิตามิน แตกต่างจากการรับวิตามินรูปแบบอื่นอย่างไร?

การดริปวิตามินเป็นวิธีการเสริมสารอาหาร วิตามิน และเกลือแร่เข้าสู่ร่างกายโดยตรงผ่านทางหลอดเลือด ซึ่งแตกต่างจากการรับในรูปแบบอื่น เช่น การรับประทาน การฉีดเข้ากล้ามเนื้อ การอมใต้ลิ้น หรือการทาครีมที่ดูดซึมผ่านผิวหนัง เนื่องจากการดริปวิตามินช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย ทำให้วิตามินและเกลือแร่ถูกดูดซึมและนำไปใช้ได้ทันที
หลังจากนั้น ร่างกายจะขับสารส่วนเกินออกทางปัสสาวะ ทั้งนี้ ประสิทธิภาพและประโยชน์ของการดริปวิตามินขึ้นอยู่กับสูตรที่ออกแบบให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง

คะแนนบทความ