30 กำลังแจ๋วกับความรู้เรื่องซีสต์

30 กำลังแจ๋วกับความรู้เรื่องซีสต์

ถุงน้ำ หรือ ซีสต์ที่เต้านม (Breast cysts) คือถุงที่บรรจุของเหลวอยู่ภายในและอยู่ที่หน้าอก ส่วนใหญ่แล้วมีรูปร่างกลมและขอบเรียบ กรณีที่ซีสต์มีขนาดใหญ่พอสมควรจะสามารถคลำได้ และรู้สึกเหมือนผลองุ่นนุ่มๆ หรือลูกโป่งที่มีน้ำอยู่ภายใน  ในผู้หญิงแต่ละคนมีโอกาสพบซีสต์ได้ กรณีเจอหลายซีสต์ก็พบได้บ่อยเช่นกัน โดยซีสต์มักพบในผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป และจะยุบลงได้หลังจากเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ยกเว้นในรายที่ยังคงได้รับยาจำพวกฮอร์โมนทดแทน นอกจากนี้ซีสต์ที่หน้าอกไม่จำเป็นต้องรักษา หากว่ามีขนาดไม่ใหญ่หรือไม่มีอาการเจ็บ โดยทั่วไปแพทย์จะให้การรักษาด้วยการเจาะและดูดน้ำออกมาเท่านั้น

อาการของถุงน้ำที่หน้าอก ได้แก่

  • คลำได้ก้อนที่หน้าอก เป็นก้อนที่ค่อนข้างเรียบกลม และกลิ้งไปมาได้
  • มีอาการเจ็บบริเวณที่มีก้อน
  • ก้อนที่คลำได้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นและตึงขึ้นในช่วงก่อนมีประจำเดือน และจะเล็กลงหลังหมดประจำเดือน

สิ่งสำคัญคือ… การมีซีสต์แบบธรรมดา Simple cyst ไม่ได้เป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านม จึงไม่ต้องเป็นกังวล แต่หากคลำหน้าอกตรวจด้วยตนเองแล้วพบว่ามีก้อนใหม่เกิดขึ้น หรือก้อนที่เคยพบอยู่เดิมมีขนาดใหญ่ขึ้นควรพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ใจ

สาเหตุการเกิดถุงน้ำที่หน้าอก

เต้านมแต่ละข้างจะมีเนื้อเยื่อของต่อมน้ำนมอยู่ประมาณ 15-20 กลุ่ม และแตกแขนงออกเป็นท่อน้ำนมในแต่ละกลุ่มเพื่อใช้ในการสร้างน้ำนม ซึ่งท่อน้ำนมเหล่านี้ก็จะเป็นที่สะสมของน้ำนมที่สร้างขึ้นมาด้วยเช่นกัน

ถุงน้ำที่เต้านมนั้นเกิดจากต่อมน้ำนมและเนื้อเยื่อรอบๆ โตขึ้นผิดปกติจนไปอุดกั้นท่อน้ำนม ทำให้มีการขยายออกของท่อน้ำนมและมีของเหลวเข้าไปสะสมอยู่

ซีสต์แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ Microcysts เป็นซีสต์ที่มีขนาดเล็กมากจนไม่สามารถคลำได้ แต่จะพบได้เมื่อทำการตรวจแมมโมแกรมหรืออัลตราซาวน์ และ Macrocysts ซึ่งเป็นซีสต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สามารถคลำได้ ส่วนใหญ่ที่สามารถคลำได้ชัดเจนคือเมื่อมีขนาด 2.5 เซนติเมตร หากมีขนาดใหญ่มากก้อนซีสต์จะเบียดเนื้อเยื่อรอบข้างทำให้มีอาการเจ็บได้ โดยสาเหตุของซีสต์ที่เต้านมไม่ชัดเจน แต่อาจจะเกิดจากการมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายมากเกินไป

การตรวจและวินิจฉัยซีสต์ที่เต้านม

มักทำหลังจากที่ผู้ป่วยหรือแพทย์ตรวจร่างกายพบว่ามีก้อนที่เต้านม โดยจะทำการตรวจต่อไปนี้

  • การตรวจคลำเต้านมโดยแพทย์ แต่การตรวจนี้จะยังไม่สามารถบอกได้ว่าก้อนที่ตรวจพบเป็นก้อนเนื้อหรือถุงน้ำกันแน่ จึงควรจะต้องทำการตรวจด้วยวิธีอื่น ๆ เพื่อยืนยันเพิ่มเติม
  • การตรวจอัลตราซาวน์เต้านม วิธีการนี้จะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยได้ว่าก้อนที่ตรวจพบเป็นก้อนเนื้อหรือถุงน้ำ
  • การเจาะดูดของเหลวด้วยเข็ม Fine-needle aspiration เป็นการตรวจที่แพทย์จะทำการเจาะดูดของเหลวออกจากในก้อนถุงน้ำ ถ้าของเหลวที่ดูดออกมาไม่มีเลือดปนก็ไม่จำเป็นต้องทำการตรวจอย่างอื่นต่อ แต่หากพบว่ามีเลือดปนจำเป็นต้องส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม กรณีที่ดูดของเหลวไม่ออกหรือก้อนไม่ยุบลงแสดงว่ามีส่วนที่เป็นเนื้อปนอยู่ด้วย จะต้องทำการส่งตรวจเพื่อหาเซลล์มะเร็งต่อไป

การรักษา

ซีสต์ที่หน้าอกชนิด simple ไม่จำเป็นต้องรับการรักษา อาจจะทำเพียงการติดตามตรวจดูขนาดของถุงน้ำว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่เท่านั้น แต่หากแพทย์แนะนำว่าผู้ป่วยควรได้รับการรักษาจะมีวิธีการต่างๆ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาวิธการที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายตามด้านล่างนี้

การเจาะดูดของเหลวด้วยเข็ม Fine-needle aspiration

นอกจากจะเป็นหนึ่งในขั้นตอนการวินิจฉัยแล้ว หากว่าหลังดูดของเหลวออกมาแล้วก้อนยุบลงหรืออาการที่เป็นหายไปก็ถือว่าเป็นการรักษาถุงน้ำได้อีกทางด้วย โดยขั้นแรกแพทย์จะทำการตรวจดูตำแหน่งของซีสต์และจะแทงเข็มเข้าไปเพื่อดูดของเหลวออกมา และเพื่อตำแหน่งที่ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น แพทย์จะทำการรักษาร่วมกับมีการอัลตราซาวน์ไปพร้อมกัน

ในคนที่มีถุงน้ำที่เต้านม ภายหลังการดูดของเหลวออกไปอาจมีโอกาสกลับมาเป็นได้ใหม่ หรืออาจจะมีก้อนใหม่เกิดขึ้นซึ่งถือเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย

การใช้ฮอร์โมน

การใช้ยาจำพวกยาคุมกำเนิดเพื่อปรับระดับฮอร์โมนในร่างกายและประจำเดือนอาจจะช่วยลดการเกิดถุงน้ำที่เต้านมได้ การหยุดฮอร์โมนทดแทนในหญิงวัยทองก็ช่วยได้เช่นกัน

การผ่าตัด

ในผู้ป่วยบางรายจำเป็นต้องผ่าตัด เช่น มีอาการค่อนข้างมาก หรือมีการเจาะดูดออกแล้วพบเลือดปน หรือสงสัยความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง เป็นต้น

การป้องกันถุงน้ำที่เต้านม

  • สวมชุดชั้นในที่มี support อาจจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บได้
  • หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ แม้ยังไม่มีการวิจัยใดที่แสดงว่าการดื่มกาแฟมีความสัมพันธ์กับการเกิดถุงน้ำอย่างแน่ชัด แต่สำหรับอาการต่างๆ พบว่าอาการจะบรรเทาลงหากหยุดการดื่มกาแฟ
  • ลดการรับประทานอาหารเค็ม เพราะความเค็มจะทำให้เกิดการคั่งของน้ำในร่างกาย
  • ในบางรายระบุว่า Evening primrose จะสามารถลดอาการเจ็บที่เกิดจากถุงน้ำที่เต้านมได้
  • ผู้หญิงควรตรวจคลำเต้านมด้วยตัวเองเป็นประจำ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง หากพบความผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที
คะแนนบทความ