โรค COVID-19 ไข้หวัดใหญ่ และปอดอักเสบ ต่างกันอย่างไร

โรค COVID-19 ไข้หวัดใหญ่ และปอดอักเสบ ต่างกันอย่างไร
  • 1 ใน 3 ของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ มักติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วยโดยเฉพาะเชื้อนิวโมคอคคัส ทำให้เกิดปวดบวม บางรายอาจติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้เสียชีวิตได้
  • โรคปอดบวมจากเชื้อนิวโมคอคคัสเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้สูงวัยที่มีอายุมากกว่า 65 ปี
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน โรคปอด จะมีอัตราการเสียชีวิตจากโรค Covid-19 ไข้หวัดใหญ่ และปอดอักเสบ มากกว่าคนปกติ

โรค COVID-19 ไข้หวัดใหญ่ และปอดอักเสบ ต่างกันอย่างไร

 

โรค COVID-19

ไข้หวัดใหญ่

โรคปอดบวมจาก
เชื้อนิวโมคอคคัส

พบบ่อยแค่ไหน

ผู้ป่วยส่วนใหญ่อายุระหว่าง 15-49 ปี (55.1% ของผู้ป่วยทั้งหมด) C1
  • ทั่วโลกพบ 713 คน ต่อ 100,000 ประชากร/ปี
  • ในไทยพบ 1,231 คน ต่อ 100,000 ประชากร/ปี F2

ยิ่งอายุมาก ยิ่งพบบ่อย P1

  • อายุ 50-64 ปี พบ 25 คน ต่อ 100,000 ประชากร/ปี
  • อายุ > 65 ปี พบ 67 คน ต่อ 100,000 ประชากร/ปี

ยิ่งอายุมากและมีโรคประจำตัว ยิ่งพบบ่อย P1

  • อายุ>65ปี และเป็นโรคเบาหวาน พบ 187 คน ต่อ 100,000 ประชากร/ปี
  • อายุ>65ปี และเป็นโรคหัวใจ พบ 254 คน ต่อ 100,000 ประชากร/ปี
  • อายุ>65ปี และเป็นโรคหอบหืด พบ 398 คน ต่อ 100,000 ประชากร/ปี
  • อายุ>65ปี และเป็นโรคปอดพบ 516 คน ต่อ 100,000 ประชากร/ปี

เชื้อที่เป็นสาเหตุ

SARS-CoV-2

Influenza A(H3N2), A(H1N1)) virus

Influenza B virus

Streptococcus pneumoniae (เชื้อนิวโมคอคคัส)

อาการ

ระยะฟักตัว 14 วัน

ประมาณ 97.5% จะเริ่มมีอาการใน 11.5 วันโดยเฉลี่ย

อาการ ได้แก่

ไข้ (98%) ประมาณ 60% พบไข้สูงกว่า 38 องศา

ไอแห้งๆ (68%)

อ่อนเพลีย (38%)

หายใจหอบเหนื่อย (31%)

(อาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หรือหนาวสั่น พบได้น้อยประมาณ 11-13%) C1

ไข้สูงกว่า 38 องศา มีการหนาวสั่น

ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ

ไอแห้งๆ

อ่อนเพลีย

คัดจมูก

เจ็บคอF3

ไข้สูง หนาวสั่น

หอบ หายใจลำบาก

ไอมีเสมหะ

 

ความรุนแรง

อาการรุนแรง (14%) - หายใจหอบเหนื่อยร่วมกับภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ hypoxia

อาการขั้นวิกฤต (critical) (5%) – มีภาวะหายใจล้มเหลว หรือมีอวัยวะภายในล้มเหลว C2

1ใน 3 ของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ มักติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วยโดยเฉพาะเชื้อนิวโมคอคคัส F1 ทำให้เกิดปวดบวม บางรายอาจติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้เสียชีวิตได้

  • มักต้องนอนรักษาตัวในรพ.P2
  • เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้สูงวัย > 65 ปี P2
  • ในคนไข้บางรายอาจติดเชื้อในกระแสเลือด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และทำให้เสียชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว

อัตราการเสียชีวิต

  • ทุกช่วงอายุ: 1.4-2.3% C3, C4(คาดว่าอัตราการเสียชีวิตอาจน้อยกว่า 1% เนื่องจากมีผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการด้วย)
  • ผู้สูงอายุ >80 ปี: 14.8%
  • ผู้มีโรคประจำตัว
  • โรคหัวใจ 10.5%
  • เบาหวาน 7.3%
  • โรคปอด 6%
  • ทุกช่วงอายุ: <0.1% F4
  • ผู้สูงอายุ >65 ปี: 11.4%
  • ผู้มีโรคประจำตัว
  • โรคหัวใจ 11%
  • เบาหวาน 10.6%
  • โรคปอดเรื้อรัง 7.7%
  • ทุกช่วงอายุ: 10% P3
  • ผู้สูงอายุ > 80ปี: 22%
  • ผู้มีโรคประจำตัว
  • โรคหัวใจ 18%
  • เบาหวาน 11%
  • โรคปอด 10%

การแพร่ระบาด

จากผู้ที่เป็นโรค ทางการไอหรือจามในระยะ 1-2 เมตร และตามพื้นผิวที่มีการปนเปื้อนของน้ำลาย เมื่อจับแล้วสัมผัสต่อไปที่ใบหน้า จมูก ปาก

ยังไม่พบหลักฐานที่เชื้อจะลอยอยู่ในอากาศ โดยทั่วไปได้ C5

เชื้อไข้หวัดใหญ่อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย ผู้ป่วยสามารถแพร่กระจายทางการไอ และจาม การสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อน

เชื้อนิวโมคอคคัสอาศัยอยู่ในโพรงจมูกและลำคอของทุกคนสามารถแพร่กระจายผ่านทางละออง การไอและจาม

วิธีป้องกัน

  • ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์ล้างมือที่มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70% C6
  • รักษาระยะห่างจากผู้อื่นไม่ต่ำกว่า 1 เมตร โดยเฉพาะผู้ที่ไอ หรือ จามควรห่างมากกว่า 2 เมตร
  • หลีกเลี่ยงการจับใบหน้า จมูก หรือปาก และหลีกเลี่ยงการทักทายด้วยการสัมผัสร่างกายผู้อื่น เช่นการจับมือ หรือการกอด
  • สวมหน้ากากอนามัย
  • หลีกเลี่ยงสถานที่ที่ผู้คนชุมนุมกัน พลุกพล่าน
  • ล้างมือให้สะอาด
  • สวมหน้ากากอนามัย
  • หลีกเลี่ยงชุมชนแออัด
  • ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่P4

(ฉีดวัคซีน 1 เข็ม ทุกปี)

  • ล้างมือให้สะอาด
  • สวมหน้ากากอนามัย
  • หลีกเลี่ยงชุมชนแออัด
  • ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัส P4

(ฉีดวัคซีน 13 สายพันธุ์ 1 เข็ม

ตามด้วย 23 สายพันธุ์ 1 เข็ม

ห่างกัน 1 ปี)

Reference

คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?