แม่หลังคลอด กับการทำเลเซอร์

• ปัญหาผิวที่พบได้บ่อยในคุณแม่หลังคลอดคือ ผิวแตกลาย ผิวหย่อนคล้อย ผิวแห้งและผิวมีรอยดำ ฝ้า กระ
• สำหรับคุณแม่หลังคลอดที่ยังให้นมบุตร ห้ามไม่ให้ฉีดสารลดริ้วรอย สารเติมเต็มใบหน้า เข้าร่างกาย แต่ สามารถทำเลเซอร์ได้ ภายใต้การดูแลของแพทย์

คุณแม่หลังคลอดมักมีความกังวลเรื่องของผิวพรรณ เพราะปัญหาผิวส่วนมากหลังคลอดบุตรคือ ผิวขาดน้ำ ผิวแตกลาย หย่อนคล้อย และมีรอยดำ ฝ้า กระ

การทำเลเซอร์ชนิดต่างๆ จะมีความปลอดภัยหรือไม่ คือสิ่งที่คุณแม่หลังคลอดหลายท่านสงสัย เพราะยังจำเป็นต้องให้นมลูก

คำตอบของเรื่องนี้ คือ การทำทรีทเม้นต์ต่างๆ หรือเลเซอร์ไม่ได้อยู่ในข้อห้ามสำหรับคุณแม่ที่ยังให้นมบุตร เพียงแต่ห้ามไม่ให้ฉีดสารหรือยาต่างๆ เข้าร่างกาย เช่น ฉีดเมโสหน้าใส เมโสสลายไขมัน การฉีดสารลดริ้วรอย การฉีดสารเติมเต็มใบหน้า การทำทรีทเม้นต์ที่ผลักสารกลุ่มวิตามินเอเข้าสู่ผิวหน้า เป็นต้น

แต่สำหรับเลเซอร์อื่นๆ ที่แก้ปัญหาเฉพาะที่ผิวเท่านั้น สามารถทำได้ทุกชนิด เพราะยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์พิสูจน์ว่าพลังงานจากเลเซอร์เหล่านั้นจะสะสมในร่างกายแล้วผ่านน้ำนมจนก่อให้เกิดอันตรายต่อลูกได้ ฉะนั้นหากคุณแม่หลังคลอดอยากกลับมาหุ่นดีสมส่วนและมีผิวพรรณที่สดใส สามารถเลือกวิธีสวยได้ตามแต่ละปัญหาผิว ดังนี้

ผิวแตกลาย หรือ รอยแตกลาย สำหรับในทางการแพทย์จะเรียกกันว่า “Stretch marks” หรือ “Striae” ซึ่งเป็นแผลชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหนัง และมีสีที่แตกต่างอย่างชัดเจนกับผิวหนังส่วนอื่น ซึ่งสาเหตุเกิดจากการฉีกขาดของหนังแท้ โดยผิวหนังบริเวณนั้นๆ เกิดการยืด ขยายตัวอย่างรวดเร็ว กลุ่มสตรีตั้งครรภ์มีปัญหาผิวแตกลาย ท้องลายมากถึง 90% เนื่องจากอายุครรภ์โตขึ้น เด็กในครรภ์ก็จะมีการขยายตัว จนทำให้หน้าท้อง และขาอ่อนขยายไปด้วย จนเกิดปัญหาผิวแตกลาย ซึ่งสามารถพบได้บริเวณหน้าอก หน้าท้อง สะดือ เต้านม ต้นแขน ต้นขา สะโพกและน่อง

Tips : Fractional Laser ช่วยปรับการเรียงตัวของผิวหนังใหม่ การกระชับผิว ลดรอยแตกลายที่มีสีดำแดง บวกกับการนวดด้วย เลเซอร์คลื่นวิทยุ เช่น Exillis  จะช่วยให้ผิวกระชับมากยิ่งขึ้น ไล่น้ำส่วนเกินออก ผิวชั้นหนังแท้ก็จะถูกฟื้นฟู ริ้วรอยแตกลายต่างๆ จะดูจางลงได้ แต่แนะนำให้คุณแม่หลังคลอดออกกำลังกายและควบคุมอาหารแบบเหมาะสมพร้อมกันไปด้วย

ประมาณ 2 สัปดาห์หลังคลอด ร่างกายของคุณแม่จะเจอกับปัญหาขาดน้ำ เพราะจะมีการขับเอาน้ำที่สะสมในระหว่างตั้งครรภ์ออกไป ส่งผลต่อสุขภาพผิว เกิดปัญหาผิวขาดน้ำตามมา ถ้าคุณแม่ดื่มน้ำน้อย ปัญหาผิวขาดน้ำก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น วิธีสังเกตปัญหาผิวขาดน้ำคือ ปากแตก ปากลอกเป็นขุย รู้สึกเหนียวคอ ผิวแห้ง ผิวไม่สดใส ผมขาดหลุดร่วงง่าย น้ำนมออกน้อย

Tips : ปัญหาผิวขาดน้ำ สามารถแก้ได้ด้วยการหมั่นดื่มน้ำบ่อยๆ ทาครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นผิวต่อเนื่องยาวนาน ส่วนการทำทรีทเมนต์สามารถเลือกใช้ทรีทเม้นต์ที่ให้การบำรุงผิว เช่น คอลลาเจนเข้มข้นเพื่อผิวอิ่มเอิบ (Collagen Mask) , ทรีทเม้นต์ออกซิเจนเพื่อผิวชุ่มชื่น (Oxy-Life)

ปัญหาผิวหย่อนคล้อย สามารถพบได้ที่บริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ลักษณะการเริ่มหย่อนคล้อยและเหี่ยวย่นของผิวในแต่ละคน ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ แต่เมื่อประกอบกับปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมและไลฟ์สไตล์ อาจจะมีผลกระทบต่อการทำงานของเซลล์ใต้ชั้นผิวไม่เหมือนกัน

Tips : เลเซอร์ที่ช่วยลดความหย่อนคล้อยที่เกิดจากคอลลาเจนในชั้นผิวลดลงหรือเสื่อมสภาพไปตามวัย เช่น Collagen laser, Long pulse Nd yag , Ulthera (Ultrasound Laser), UltraLift (HIFU)

ฝ้า กระ  (Melasma) ฝ้าไม่ได้มีสาเหตุจากแสงแดดเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงฮอร์โมนและกรรมพันธุ์ด้วย  การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนอย่างรวดเร็วตอนตั้งครรภ์ ทำให้ขณะตั้งครรภ์และหลังคลอด มีฝ้าปรากฏโดยไม่ทันรู้ตัว

ประเภทของฝ้า จะมี 2 แบบ คือ

• ฝ้าแบบตื้น จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก) ฝ้าชนิดนี้จะเป็นสีน้ำตาล ขอบชัด เกิดขึ้นได้ง่าย และสามารถรักษาให้หายได้โดยใช้เวลาไม่นาน
• ฝ้าแบบลึก จะอยู่ในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า ทำให้เกิดการแสดงสีออกมาเป็นสีน้ำตาลอมฟ้าหรือสีน้ำตาลอมม่วง เป็นฝ้าที่รักษาได้ยาก การทายามักให้ผลเพียงแค่ทำให้ดูจางลงเท่านั้น

Tips : เลเซอร์กลุ่มทำลายเม็ดสีหรือลดเลือนเม็ดสีจากฝ้า กระ รอยดำ คือ Pico Laser เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นแสงเลเซอร์ที่สั้นที่สุด ในหน่วย Picosecond (หนึ่งในล้านล้านส่วนของหนึ่งวินาที) ในการทำลายเม็ดสีที่เรียงตัวกันอย่างหนาแน่นเป็นกระจุก เกิดการแตกตัวจนกลายเป็นอนุภาคที่มีขนาดเล็กที่สุด และถูกกำจัดออกจากร่างกายตามกลไกธรรมชาติ

ในส่วนของเลเซอร์ V beam จะเหมาะสำหรับการรักษาโรคของเส้นเลือดที่มีสีแดงทุกชนิด โดยเฉพาะฝ้าเลือด (ฝ้าที่มีลักษณะเป็นรอยแดงคล้ายเส้นเลือด มีสีแดงปนน้ำตาล เป็นรอยปื้นๆ มีสีชมพู สีแดง จนไปถึงสีดำ)

นอกจากนั้นการใช้ Elos Laser และ Crystal Bright ยังช่วยลดความหมองคล้ำ พร้อมฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใสให้เท่ากันทั่วใบหน้า ก็เป็นอีกทางเลือกที่แพทย์นิยมใช้ในการรักษา