สุขภาพตากับเด็กยุคดิจิตอล

สุขภาพตากับเด็กยุคดิจิตอล

HIGHLIGHTS:

  • การที่พ่อแม่ปล่อยให้ลูกใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเป็นเวลานานๆ เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสายตาสั้น และสมาธิสั้นได้
  • วิธีง่ายๆ ในการผ่อนคลายดวงตา คือ การละสายตาจากหน้าจอแสงสีฟ้า 30 วินาที และควรหลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอแสงสีฟ้า นานเกินกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน

ปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญเกือบจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการดำรงชีวิต เห็นได้จากการที่พ่อแม่ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ นิยมจะให้เด็กมีสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตไว้ใช้เพื่อการติดต่อสื่อสารหรือเพื่อสร้างความบันเทิง แต่อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์อิเล็กทอนิกเหล่านั้นอาจจะนำมาซึ่งปัญหาและผลกระทบต่อเด็ก ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้เช่นกัน

การที่เด็กจ้องหน้าจอแสงสีฟ้าเป็นเวลานาน ดวงตาจะแห้งและมีการระคายเคือง เนื่องจาก ตาขาดน้ำหล่อเลี้ยง ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสายตาสั้นหรือมีอาการปวด อาทิเช่น อาการปวดหู ปวดศีรษะ เป็นต้น

ช่วงของเด็กในวัยแรกเกิด จนถึง 6 ปี เป็นช่วงที่สำคัญที่สุดสำหรับกระตุ้นพัฒนาการของเด็ก ดังนั้นการที่พ่อแม่ปล่อยให้ลูกใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ติดต่อกันนานๆ จะทำให้เด็กมีพัฒนาการไม่สมวัย มีการเคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่ว สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง หรือมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมาธิสั้น

ข้อแนะนำในการดูแลและปกป้องไม่ให้สายตาของลูกเสียก่อนวัยอันควร

  • ปรับสภาพแวดล้อม แสงสว่างโดยรอบให้พอดี เพื่อลดความสว่างของหน้าจอ
  • หลีกเลี่ยงการใช้สายตาเป็นเวลานานๆ ควรพักสายตาด้วยการมองไปที่ไกลๆ หรือในบริเวณมีสวน ต้นไม้ เพื่อลดความเมื่อยล้าของดวงตา
  • หมั่นตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ อย่างน้อยปีละครั้ง

และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ การเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือ การกระตุ้นโดยพ่อแม่เป็นผู้สอน อย่างเช่น การออกไปเดินเล่นนอกบ้าน สวนสาธารณะ และพิพิธภัณฑ์ เป็นต้น

คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?