ผ่าตัดลดน้ำหนักผ่านกล้อง หนึ่งวิธีขจัดความอ้วนที่น่าสนใจ

คงเป็นเรื่องที่น่าหนักใจไม่น้อยเมื่อหนุ่มๆ สาวๆ มีไขมันส่วนเกินในร่างกายมากจนมีคนขนานนามให้ว่าเป็นกลุ่มคนบิ๊กไซส์ ความมั่นใจในชีวิตก็เลยค่อยๆ ลดลง แม้จะพยายามอย่างมากที่จะลดน้ำหนักและสัดส่วนลงแต่ก็ไม่เป็นผล เราต้องยอมรับว่าเรื่องของรูปร่างหน้าตาในทุกวันนี้มีความสำคัญมากนอกจากจะมีความสัมพันธ์กับเรื่องของสุขภาพแล้ว ปัญหาความอ้วนและรูปร่างที่ไม่ได้สัดส่วนยังมีผลต่อบุคลิกภาพและหน้าที่การงานอีกด้วย วันนี้เราจึงจะมาแนะนำอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณออกห่างจากโรคอ้วนที่คุณไม่ต้องการได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัย นั่นคือ การผ่าตัดลดน้ำหนักผ่านกล้อง จะมีอะไรที่คุณควรรู้บ้างมาติดตามกัน

ในทางการแพทย์ปัญหาของความอ้วนนั้นมองว่าเป็นความซับซ้อนของร่างกายอย่างหนึ่ง ซึ่งบางทีไม่ได้เกิดขึ้นจากลักษณะนิสัยการรับประทานเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เป็นผลร่วมกันระหว่างปัจจัยทางพันธุกรรม ฮอร์โมน การสันดาปของร่างกาย และสิ่งแวดล้อม ในทางการแพทย์จึงมองว่าความอ้วนเป็นโรคอย่างหนึ่งเหมือนกัน วิธีการจัดการกับโรคอ้วนแม้จะมีหลายวิธีก็ตามแต่บางทีก็อาจจะไม่ได้ผลตลอด แพทย์จึงศึกษาวิจัยจนพบว่ามีวิธีการผ่าตัดที่ใช้ลดขนาดกระเพาะอาหารได้ เรียกง่ายๆ ว่าเป็น ผ่าตัดลดน้ำหนักผ่านกล้อง (laparoscopic gastric bypass) โดยใช้วิธีตัดต่อกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก วิธีนี้จัดเป็นรูปแบบหนึ่งของการผ่าตัดแบบ Minimally Invasive Surgery หรือ MIS คือเป็นการผ่าตัดที่มีแผลเล็กๆ และเจ็บน้อยมาก ซึ่งการผ่าตัดลดน้ำหนักผ่านกล้อง จะช่วยทำให้กระเพาะอาหารเล็กลง ผู้ป่วยจะรับประทานอาหารได้น้อยลงโดยไม่รู้สึกหิว และจะรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น จึงช่วยจำกัดปริมาณการบริโภคอาหารและนำไปสู่การลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง และในส่วนของการผ่าตัดนั้นก็ไม่ยุ่งยากนัก แพทย์จะทำการเจาะผิวหนังบริเวณหน้าท้องให้เกิดรูประมาณ 5 รูซึ่งขนาดของแผลก็เล็กนิดเดียวไม่เกิน 2 ซม.จากนั้นก็จะสอดกล้องและอุปกรณ์ทางแพทย์เข้าไปและจัดการเย็บส่วนของกระเพาะอาหารให้มีขนาดประมาณ 15-30 มิลลิลิตร จากนั้นจึงนำมาต่อเข้ากับลำไส้เล็ก เมื่อเสร็จแล้วก็เอาอุปกรณ์ต่างๆ ออกและเย็บปิดแผล ก็เป็นอันเสร็จ หลังทำคนไข้จะรู้สึกเจ็บแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและพักฟื้นไม่นานก้จะกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้

คือ บาดแผลเล็ก เเผลมีโอกาสการติดเชื้อได้น้อย มีความเจ็บปวดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิด ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วหลังผ่าตัดพักฟื้นเพียง 2 – 3 วันก็กลับไปทำงานได้ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลกันเป็นสัปดาห์จึงไม่ต้องห่วงว่าจะต้องลางานหลายวัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามแม้วิธีการนี้จะเป็นวิธีการที่ดี แต่ก็ใช่ว่าจะเหมาะสมกับทุกคน การเลือกวิธีที่เหมาะสมให้กับผู้ป่วยแต่ละรายเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ผลการผ่าตัดได้ตามที่ต้องการ แพทย์จึงจำเป็นต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไปว่าจะใช้วิธีการนี้ในการแก้ปัญหาเรื่องความอ้วนให้กับคนไข้รายนั้นๆ ได้หรือไม่

สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือวิธีการผ่าตัดลดน้ำหนักผ่านกล้อง ยังมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ศัลยแพทย์จึงจะต้องพิจารณาหลายๆ องค์ประกอบที่เหมาะสมกับคนไข้ในการแก้ปัญหา จึงจะสามารถตัดสินใจเลือกวิธีผ่าตัดให้กับคนไข้ได้ สิ่งสำคัญประการหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเรื่องความอ้วนนั้นก็อยู่ที่ตัวเราเองด้วย การหมั่นออกกำลังกายและควบคุมอาหาร ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเสริมสุขภาพที่ดีให้แก่ร่างกาย ช่วยดูแลรูปร่างให้กับเราในอีกทางหนึ่ง แม้จะมีวิธีการผ่าตัดรักษาโรคอ้วนให้กับเราได้ก็จริง แต่การไม่อ้วนน่าจะเป็นอะไรที่ดีกว่า เพราะเราจะได้ไม่ต้องไปผ่าตัดให้เสียเงินไปเปล่าๆ โดยใช่เหตุ