ผลตรวจสุขภาพประจำปี รู้ได้อย่างไร ค่าสุขภาพแบบไหน เข้าข่ายเสี่ยงโรค

ผลตรวจสุขภาพประจำปี รู้ได้อย่างไร ค่าสุขภาพแบบไหน เข้าข่ายเสี่ยงโรค

Highlight:

  • การตรวจสุขภาพ เป็นการป้องกันก่อนการเกิดโรค เนื่องจากบางโรคมักไม่แสดงอาการ และกว่าจะมีอาการแสดงก็รุนแรงจนยากที่จะรักษา หากพบค่าสุขภาพผิดปกติในผลตรวจสุขภาพ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด  
  • การวัดค่าความดันโลหิตเพียงครั้งเดียวอาจไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง จึงจำเป็นต้องวัดซ้ำ 2 – 3 ครั้ง และตรวจติดตามผลเป็นระยะ เนื่องจากค่าความดันโลหิตมีปัจจัยกระทบได้ง่าย เช่น ความเหนื่อยล้า ความตื่นเต้น และความเครียด หรือการพักผ่อนน้อย 

หลังการตรวจสุขภาพ ฟังแพทย์อธิบายผลตรวจสุขภาพและค่าต่างๆ ในแผ่นกระดาษ จำได้บ้างลืมบ้าง เนื่องจากมีทั้งอักษรย่อ ทั้งตัวเลข พร้อมคำแนะนำมากมายเต็มไปหมด ค่าน้ำตาลในเลือดสูง ความดันโลหิตค่อนข้างสูง ไขมันในเลือดปริ่มเพดานค่ามาตรฐาน รู้หรือไม่ว่า ตัวเลขเฉพาะเหล่านั้นบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพและความเสี่ยงโรคร้ายบ้าง  

ค่าน้ำตาลในเลือด (Blood sugar)

ทางการแพทย์ใช้การตรวจวัดระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดเพื่อคัดกรองความเสี่ยงโรคเบาหวาน ซึ่งค่าปกติของระดับน้ำตาลในเลือดเท่ากับ 70-99 mg/dl หากมีระดับน้ำตาลตั้งแต่ 100 – 125 mg/dl ถือว่ามีความเสี่ยงหรือมีแนวโน้มเป็นโรคเบาหวาน และหากมากกว่า 126 mg/dl ถือว่าเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานระยะเริ่มต้น

อย่างไรก็ตาม ค่า HbA1c (Glycated hemoglobin) หรือการตรวจน้ำตาลสะสม เป็นค่าเฉลี่ยของน้ำตาลในเลือดสะสมช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ไม่จำเป็นต้องอดอาหาร มักใช้เป็นการตรวจวินิจฉัยโรคเบาหวานและติดตามการควบคุมโรคเบาหวาน รวมถึงประเมินความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ ค่า HbA1c ปกติ คือ น้อยกว่า 5.7 mg% หากมีค่า 5.7 – 6.4 mg% ถือเป็นผู้มีความเสี่ยงเป็นเบาหวาน  และหากมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 6.5 mg% ถือเป็นโรคเบาหวาน

นอกจากตัวโรคเบาหวานที่ตัวโรคมีความอันตรายอยู่แล้ว ยังมีอันตรายในรูปแบบของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดตามมา เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองส่งผลให้เกิดอัมพฤกษ์/อัมพาต หรือโรคจอประสาทตา โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน โรคไตเรื้อรัง ภาวะเบาหวานขึ้นตาจนส่งผลต่อการมองเห็นและเกิดภาวะตาบอดในที่สุด

ค่าไขมันในเลือด (Cholesterol, Triglyceride, HDL, LDL)

การที่จะให้ผลการตรวจระดับไขมันในเลือดมีความแม่นยำมากที่สุด ผู้ตรวจควรงดอาหารและน้ำประมาณ 12 ชั่วโมงก่อนทำการเจาะเลือด โดยสามารถแบ่งการตรวจค่าไขมันในเลือดได้ ดังนี้

  • คอเลสเตอรอล (Cholesterol) เป็นระดับไขมันรวมในกระแสเลือด กรณีพบภาวะไขมันในเลือดสูงกว่า 200 mg/dl  สามารถทำให้หลอดเลือดแข็ง ตีบ และอุดตัน เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจได้ 
  • ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) หากตรวจพบไตรกลีเซอไรด์มีค่าสูงกว่า 150 mg/dl ถือว่ามีความเสี่ยงโรคไขมันอุดตันและหลอดเลือดแข็งตัว ตับอ่อนอักเสบ
  • ไขมันเอชดีแอล HDL (High-Density Lipoprotein cholesterol) เป็นไขมันดี มีหน้าที่จับไขมันตามผนังหลอดเลือดเพื่อนำไปทำลายที่ตับ หากมีระดับ HDL สูงจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งระดับ HDL ในหลอดเลือดไม่ควรต่ำกว่า 40 mg/dl ในเพศชาย และ 50 mg/dl ในเพศหญิง ระดับที่ดีควรมากกว่า 60 mg/dl
  • ไขมันแอลดีแอล LDL (Low-Density Lipoprotein cholesterol) หรือไขมันตัวร้าย หากมีปริมาณมากจะเพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือดตีบตันตามอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจและสมอง ดังนั้นจึงไม่ควรมีระดับ LDL สูงเกินกว่า 130 mg/dl

ค่าความดันโลหิต

การวัดค่าความดันโลหิต ช่วยให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดเบื้องต้น  ซึ่งค่าความดันโลหิตปกติ ตัวบนไม่ควรเกิน 120 มม.ปรอท และตัวล่างไม่เกิน 80 มม.ปรอท  สำหรับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง คือ 140/90 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป

ทั้งนี้ หากมีค่าความดันโลหิตสูง อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายอื่นๆ ตามมา เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคไต เป็นต้น ทั้งนี้ การวัดค่าความดันโลหิตเพียงครั้งเดียวอาจไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง จึงจำเป็นต้องวัดซ้ำ 2 – 3 ครั้ง และตรวจติดตามผลเป็นระยะ เนื่องจากค่าความดันโลหิตมีปัจจัยกระทบได้ง่าย เช่น ความเหนื่อยล้า ความตื่นเต้น และความเครียด หรือการพักผ่อนน้อย เป็นต้น

ค่าการทำงานของตับ (Liver function test)

การตรวจการทำงานของตับสามารถตรวจจากผลเลือดได้ โดยผู้ตรวจไม่จำเป็นต้องงดอาหารก่อนการเจาะเลือด โดยผลเลือดที่แสดงค่าการทำงานของตับแบ่งออกได้ ดังนี้ 

  • Alanine aminotransferase (ALT) หรือ Serum glutamic pyruvic transaminase (SGPT) เป็นเอนไซม์ชนิดหนึ่งในเซลล์ตับ ค่า ALT ปกติเท่ากับ 0 - 34 U/L ในเพศหญิง 0 - 45 U/L ในเพศชาย หากตรวจพบค่าผิดปกติ สามารถบ่งชี้ความผิดปกติที่เกิดในเซลล์ตับและการเกิดโรคในตับ เช่น ตับแข็ง ได้
  • Aspartate aminotransferase (AST) หรือ Serum glutamic-oxaloacetic transaminase (SGOT) เอนไซม์ที่พบในเซลล์ตับและในอวัยวะอื่นๆ เช่น หัวใจ ไต สมอง และกล้ามเนื้อ ปกติมักตรวจคู่กับ ALT เพื่อประเมินการทำงานของตับ ซึ่งค่าปกติของ AST นั้นเท่ากับ 5-34 U/L   
  • Alkaline phosphatase (ALP) เอนไซม์ที่ผลิตขึ้นมาด้วยโปรตีนจากอวัยวะต่างๆ ที่เกิดโรคหรือเกิดความผิดปกติ เช่น ตับ กระดูก ลำไส้เล็ก ไต ปกติมักตรวจคู่กับ ALT เพื่อประเมินการทำงานของตับ ค่าปกติของ ALP ในผู้ใหญ่โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40 - 150 U/L กรณีพบ ALP มีค่าสูงอาจบ่งชี้ว่าเกิดปัญหาเกี่ยวกับตับ เช่น ตับอักเสบ โรคมะเร็งตับ หรือรับประทานยาที่เกิดพิษต่อตับ        
  • Albumin คือ โปรตีนที่สร้างจากตับ เป็นส่วนประกอบสำคัญของเลือด การตรวจวัดโปรตีน Albumin ช่วยในการประเมินการทำงานของตับและความสมดุลของการสร้างอัลบูมินที่ตับและการขับออกทางไต ค่าปกติของ Albumin นั้นเท่ากับ 3.5 - 5.2 mg/dl
  • Total bilirubin การตรวจวัด bilirubin ใช้ในการประเมินการทำงานของตับได้ โดยค่าปกตินั้นอยู่ที่ 0.2-1.2 mg/dl    

ผลตรวจสุขภาพผิดปกติ ควรทำอย่างไร

การตรวจสุขภาพ คือ แนวคิดการป้องกันก่อนการเกิดโรค อาจตรวจพบความเสี่ยงโรคหรือค้นพบโรคในระยะเริ่มต้น กรณีพบผลผิดปกติที่บ่งบอกการเริ่มต้นของโรค แพทย์อาจสั่งยา หรือมีคำแนะนำอื่นๆ เพิ่มเติมเฉพาะโรค เช่น การปรับพฤติกรรมที่ส่งผลต่อสุขภาพของผู้ป่วย รวมถึงอาจส่งต่อเพื่อรับการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง  

อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพตามคำแนะนำของแพทย์คือหัวใจสำคัญ ผู้เข้าตรวจสุขภาพไม่ควรละเลยคำแนะนำของแพทย์ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงแต่ยังไม่เป็นโรค เนื่องจากการรักษาในระยะเริ่มต้นมีโอกาสหายขาดได้มากกว่า และมีแนวโน้มที่สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันจะช่วยป้องกันโรคร้ายต่างๆ ได้ ดังนี้ 

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงและอาหารรสจัด ดื่มน้ำ 8-10 แก้วต่อวัน รวมถึงเพิ่มกากใยอาหารจากผักและผลไม้เป็นประจำ 
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กรณีมีโรคประจำตัว ภาวะน้ำหนักเกิน หรือมีความเสี่ยงต่างๆ ควรปรึกษาแพทย์  
  • ดูแลอารมณ์และจิตใจ ไม่เครียดหรือวิตกกังวลมากเกินไป  
  • นอนหลับให้เพียงพอ รวมถึงการนอนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อการพักผ่อนอย่างสูงสุด 
“HEALTH RACE” เติมเต็มสุขภาพครบสูตร

หลายครั้งที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย แต่กลับทำได้ยาก ทั้งไม่มีความรู้ ไม่มีเวลา ไม่มีแรงบันดาลใจ หรืออาจไม่อยากทำ คงจะดีไม่น้อยหากการดูแลสุขภาพให้ยั่งยืนจะมี “เพื่อนคู่คิดสุขภาพ (Health Companion)” เดินคู่ไปด้วยกัน โดยเฉพาะหากเพื่อนเคียงข้างนั้นเป็นแพทย์เฉพาะทางและผู้ชำนาญการทางสุขภาพด้านต่างๆ ด้วยโปรแกรม HEALTH RACE โปรแกรมการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ที่ช่วยสร้างสถิติใหม่ในการดูแลสุขภาพให้ดีด้วยตัวคุณเอง นอกจากเครื่องมือที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงแล้ว ยังเพิ่มการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องระยะยาว ช่วยเติมเต็มกับ 4 ปัจจัยหลักของการมีสุขภาพที่ดี 4 ประการ หรือ “4อ” ซึ่งเป็นแนวคิดที่ถือเป็นหัวใจของโปรแกรม HEALTH RACE เพื่อช่วยให้ไปถึงเป้าหมายทางสุขภาพที่ได้ตั้งไว้ ดังนี้

  • อาหาร – การดูแลด้านอาหารที่เฉพาะ เพื่อสุขภาพที่ดีและตรงกับเป้าหมายของตัวเองมากที่สุด รับคำแนะนำจากนักกำหนดอาหาร ที่มีประสบการณ์  
  • อิ่มกาย – การดูแลด้านการออกกำลังกายในแบบเฉพาะบุคคล โดยมีการประเมินก่อนการออกกำลังกายโดยแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจและด้านกีฬา มีการใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและทันสมัย อาทิเช่น เครื่อง Isokinetic รวมถึงการดูแลต่อเนื่องโดยนักเวชศาสตร์การกีฬา เพื่อสุขภาพที่ดีแบบยั่งยืน 
  • อิ่มอารมณ์ – การดูแลด้านอารมณ์และจิตใจโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง เพราะเมื่อสุขภาพกายดีแล้ว ต้องไม่ลืมดูแลสุขภาพใจด้วยเช่นกัน  
  • อิ่มนอน – การดูแลด้านการนอนหลับ ซึ่งหากมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ เช่น นอนไม่หลับ นอนหลับไม่มีคุณภาพ หรือนอนกรน ก็ควรได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมกับปัญหาการนอนหลับที่เผชิญอยู่ได้ 

สำหรับผู้ที่สนใจการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ผู้ที่สนใจการดูแลสุขภาพแบบที่สามารถเลือกกำหนดโปรแกรมเองได้แบบเฉพาะบุคคล (Personalized program) ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพโดยมีผู้ชำนาญการด้านต่างๆ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด  หรือผู้ที่มาตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีผลตรวจทางห้องปฏิบัติการต่างๆ ผิดปกติจากค่ามาตรฐาน และแพทย์แนะนำให้ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ก่อนอาการจะทวีความรุนแรงและต้องรับประทานยาไปตลอดชีวิต สามารถติดต่อที่ศูนย์สุขภาพ เพื่อให้ Health Companion ติดต่อกลับและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการมีสุขภาพองค์รวมที่ดีกับโปรแกรม HEALTH RACE ได้ 

คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?