ดูเหมือนปวดหลังธรรมดา…แต่อาจจะรุนแรงกว่าที่คิด?

“นั่งนานเกินไป ยกของหนัก ยกของผิดท่า ออกกำลังกายหักโหม นั่งขับรถผิดท่า ล้วนแล้วแต่มีส่วนทำให้เกิดอาการปวดหลัง” ซึ่งปัจจุบันคนไทยเป็นกันมากขึ้นไม่เว้นแม้แต่คนหนุ่มคนสาวจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา แต่คุณรู้หรือไม่ว่าอาการปวดหลังอาจไม่ธรรมดา แต่สามารถนำพาไปสู่โรคอื่นๆ ได้อีกมากมาย อาการปวดหลังอาจทำให้ชีวิตคุณไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปถ้าไม่รีบรักษาอย่างถูกวิธี

ทุกคนมีโอกาสปวดหลังกันได้ทั้งนั้น อันเนื่องมาจากการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน เรียกว่าเป็นอาการปวดหลังที่ไม่เฉพาะเจาะจง ซึ่งอาการปวดหลังดังกล่าวมักจะดีขึ้นและหายไปภายใน 2-4 สัปดาห์ แต่ถ้าไม่หายควรต้องปรึกษาแพทย์ เพราะคุณอาจเข้าสู่อาการปวดหลังเรื้อรัง หรือคุณอาจกำลังตกอยู่ในภาวะที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนก็เป็นได้ โดยอาจแบ่งเป็น 2 หมวดใหญ่ๆ ได้แก่ กลุ่มปวดหลังเรื้อรัง และกลุ่ม Red Flag

1. หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน โป่ง นูน
2. ข้อต่อกระดูกสันหลังเคลื่อน
3. ช่องไขสันหลังตีบแคบ
4. กระดูกสันหลังเคลื่อน
5. กระดูกสันหลังคด
6. กลุ่มอาการพังผืดกล้ามเนื้อ หรือที่เรามักรู้จักกันในนามของโรคออฟฟิศซินโดรม เป็นการปวดเรื้อรัง มีอาการปวดหลังแผ่กระจายไปตามตัว ในคนที่มีอาการปวดหลังมาก อาจมีจุดกดเจ็บหลายจุด บางคนเจ็บมากกว่า 11 จุด ใน 18 จุดของร่างกาย มักทำให้มีความวิตกกังวล ร่วมกับมีภาวะความผิดปกติของระบบประสาทร่วมด้วย บางคนปวดหลังมากจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า หรืออารมณ์สองขั้ว บุคลิกภาพแปรปรวน มีปัญหาในการนอนเนื่องจากอาการปวดไม่ทุเลา
7. กลุ่มอาการปมกล้ามเนื้อ คือ อาการหดตัวของเนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อขมวดเข้าหากัน จับตัวเป็นก้อนแข็ง ปมกล้ามเนื้อนี้ จะไปขัดขวางการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดบริเวณกล้ามเนื้อนั้น ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อมีเลือดไปเลี้ยงไม่พอ และส่งผลให้ปมกล้ามเนื้อพัฒนาใหญ่ขึ้น ก่อให้เกิดจุดกดเจ็บ ปวดหลัง และพัฒนาไปเป็นอาการปวดหลังเรื้อรังในที่สุด

ใครที่รู้ตัวว่าเริ่มมีกลุ่มอาการตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ไม่ควรนิ่งนอนใจ รีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้เข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี และกลับมามีสุขภาพดีเหมือนเดิมอีกครั้ง