เทคโนโลยีผิวสวย สาววัย50+

เทคโนโลยีผิวสวย สาววัย50+

HIGHLIGHTS:

  • ผิวเราจะเริ่มหย่อนคล้อยเมื่อวัยย่างเข้าเลข 4 จนสังเกตได้ จากแก้มที่ห้อยลงและริ้วรอยรอบดวงตา
  • การเสื่อมสภาพของผิวภายนอกที่ปรากฏ เกิดจากความเสื่อมของชั้นหนังแท้ ชั้นใต้ไขมัน ชั้นกล้ามเนื้อใต้ไขมัน และกระดูก การแก้ไขจึงต้องแก้ในทุก ๆ ส่วน จึงจะได้ผลดีที่สุด
  • เทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถแก้ปัญหาที่ผิวแต่ละชั้น การจะเลือกเครื่องมือหรือวิธีการไหน ขึ้นกับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละคน การพบแพทย์ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์จะช่วยให้ผิวกลับมามีสุขภาพดีได้ในแบบเฉพาะบุคคล

ถ้าโลกนี้ไม่มีแรงโน้มถ่วง การหย่อนคล้อยของผิวหนังที่ใบหน้า แก้ม หน้าอก ตามอายุที่มากขึ้น ก็คงจะไม่มีให้กังวลใจ ผิวเราจะเริ่มหย่อนคล้อยจนสังเกตได้ เมื่อวัยย่างเข้าเลข 4 เพราะความหย่อนคล้อยของใบหน้าเกิดได้จากการเปลี่ยนแปลงของผิวในชั้นหนังแท้ ชั้นไขมัน กระดูก และชั้นพังผืดใต้ชั้นไขมัน ที่เราเรียกกันว่าชั้น SMAS  (ปกติชั้นนี้ แพทย์ศัลยกรรมจะใช้ดึงหน้าให้หน้าตึง แต่ในบางรายยังอาจดูไม่เป็นธรรมชาติ สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ผิวชั้นอื่นๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไขทั้งหมดนั่นเอง)

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยยกกระชับผิว การจะเลือกเครื่องมือหรือวิธีการไหน ขึ้นกับสภาพผิวหน้าและปัญหาของแต่ละคน

ปัญหาที่ผิวชั้นหนังแท้

  • กระบวนการยกกระชับ แพทย์อาจพิจารณา ใช้เลเซอร์ ที่ช่วยลดความหย่อนคล้อยที่เกิดจากคอลลาเจนในชั้นผิวลดลงหรือเสื่อมสภาพไปตามวัย เช่น Collagen laser, Long pulse Nd yag ,เลเซอร์คลื่นวิทยุชนิดสองขั้ว (Bipolar Laser)
  • หากมีกรอบหน้าไม่ชัด การใช้ Botulinum toxin สามารถฉีดเพื่อยกกระชับสร้างกรอบหน้าและทำให้ผิวดูยกกระชับได้ดียิ่งขึ้น
  • หากใบหน้าไม่อิ่มเอิบ เหี่ยวไม่มีน้ำมีนวล การใช้สารบำรุงผิวหลายๆ ชนิดและฟิลเลอร์ Vital injector ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการยกกระชับผิวชั้นตื้น โดยฉีดเข้าไปที่ชั้นผิว นอกจากจะส่งผลให้ใบหน้าดูกระชับขึ้น ยังช่วยให้ผิวฟูและดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่งอีกด้วย

ปัญหาที่ผิวชั้นไขมัน

  • เมื่ออายุมากขึ้น ไขมันที่ใบหน้าบางส่วนจะหายไปทำให้เห็นร่องแก้ม ร่องใต้ตา ในขณะที่ไขมันบางส่วนเคลื่อนไปกองที่คางทำให้รูปหน้าดูผิดปกติ การฉีดสารเติมเต็ม hyaluronic acid หรือการฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยยกกระชับใบหน้าและจัดระเบียบไขมันได้ดีขึ้น
  • สำหรับสาวๆ ที่กลัวเข็ม การใช้ Pneulift : เครื่องพลังงานลมช่วยส่งผ่านฟิลเลอร์เป็นละอองเล็กๆ ลงไปที่ผิว สามารถช่วยให้หน้าอิ่มเอิบและดู V-Shape ได้ และวิธีการนี้ยังช่วยเติมเต็มหลุมสิวได้อีกด้วย

ปัญหาที่ชั้น SMAS

ชั้น SMAS (สแมซช์ : SMAS : Superficial Musculo-Aponeurotic System) คือ ชั้นผิวในการยกกระชับใบหน้าที่แท้จริง

เป็นชั้นพังผืดที่มีความเหนียวมาก (ชั้นที่แพทย์ศัลยกรรมใช้ดึงหน้าเวลาผ่าตัด) เทคโนโลยีที่ช่วยรักษาลงไปที่ชั้นนี้จึงเห็นผลค่อนข้างชัดเจนในการยกกระชับ ได้แก่

  • Ulthera : เป็นการใช้เทคโนโลยีส่งผ่านคลื่นเสียง (หรือคลื่นอัลตราซาวด์) พลังงานสูง ลงลึกไปที่ชั้น SMAS ทำให้เกิดการหดตัว และยกกระชับใบหน้าขึ้น ซึ่งได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากในระดับสากล ผลของการยกกระชับอยู่ได้อย่างน้อย 1 ปี ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเดียวกัน แต่เจ็บน้อยกว่า คือ UltraLift (High Intensity Focus Ultrasound) แต่ผลการรักษาก็จะน้อยกว่าและสั้นกว่าตามไปด้วย
  • Thermage : คลื่นวิทยุชนิดขั้วเดียวหรือ monopolar เป็นอีกเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในการยกกระชับใบหน้าเช่นเดียวกับ Ulthera แต่พลังงานจะลงไปที่ชั้นตื้นกว่า คือชั้นไขมันด้านล่างที่เหนือชั้น SMAS จึงทำให้ไขมันบางส่วนสลายไปด้วย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับและต้องการลดไขมันที่ใบหน้า หน้าจึงดูเรียว V-Shape แต่สำหรับคนที่หน้าตอบ แก้มตอบ การใช้ Thermage อาจจะไม่เหมาะสม

ปัญหาที่ชั้นกระดูก

ในผู้ที่อายุมากขึ้น จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของชั้นกระดูกร่วมด้วย ซึ่งการจะยกกระชับในชั้นนี้ ต้องอาศัยการฉีดฟิลเลอร์ในชั้นลึกลงไป เพื่อเสริมโครงกระดูกและปรับโครงสร้างของรูปหน้าแทน

นอกจากการดูแลตัวเองจากภายนอกโดยใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์แล้ว การดูแลตัวเองจากภายในก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการแก่อย่างมีสุขภาพดีคือของขวัญล้ำค่าที่หลายๆ คนปรารถนา

คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?