สมิติเวชรับรางวัล The Best of CEO People Leader
ด้วยกลยุทธ์สไตล์นอกตำรา พาองค์กรสู่ความยั่งยืน

นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม รพ.สมิติเวช และรพ.บีเอ็นเอช  รับรางวัล People Management  Award 2022  ประเภท The Best of CEO People Leader จากสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย

นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร กล่าวว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการนำพาองค์กรยั่งยืนก็คือการบริหารคน เพราะคนเป็นต้นน้ำของความสำเร็จ หากคนในองค์เก่งและดี เรื่อง Quality, Service, Innovation และอื่นๆ ซึ่งเป็นกลางน้ำ ก็จะดี และด้าน Finance ซึ่งถือเป็นปลายน้ำก็จะดีเองโดยอัตโนมัติ.

การบริหารคนตามตำราไม่น่าจะใช่คำตอบเพราะทุกวันนี้เรายังคงปวดหัวอยู่กับเรื่องของคนอยู่ดี การบริหารคนจึงเป็นเรื่องราวของสไตล์นอกตำราที่ต้องบริหารตามสถานการณ์จริงและแตกต่างกันตามบริบทขององค์กรนั้นนั้น

คนทุกคนทานเมล็ดข้าวเหมือนกันแต่อุปนิสัยแตกต่างกันไป

การบริหารคนจึงน่าจะเป็นเรื่องราวของประสบการณ์ การได้พบปะผู้คน เรียนรู้จากผู้คนหลากหลาย แก้ปัญหาคนที่หลากหลายรูปแบบ คนหลากหลายเหล่านี้ หากอ่านคนเป็น ใช้คนเป็น ใช้คนที่ใช่ ในสถานการณ์ที่ใช่ และในเงื่อนไขเวลาที่ใช่   ก็จะสามารถใช้ความหลากหลายของคนให้สอดรับกับความหลากหลายของสถานการณ์และหลากหลายของหน้าที่การงานได้.
นพ.ชัยรัตน์ยังเสริมว่ามนุษย์เราตราบใดที่ยังไม่บรรลุความเป็นอรหันต์ ย่อมมีกิเลสโลภ โกรธ หลง เป็นธรรมดา 

“การบริหารคนจึงเป็นเรื่องราวของการบริหารกิเลสคน ให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร”

โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากการบริหารคนทุกวันนี้จึงต้องบริหารแบบนอกตำรา เพื่อให้เท่าทันปัจจุบันและอนาคต เพราะตำราเขียนไม่ทันสถานการณ์ 

• Recruit คนที่มีเป้าหมายชีวิตและอุปนิสัยตรงกับแนวทางขององค์กรเท่านั้น ทำให้เกิด Passion ความอยากทำงานตั้งแต่แรกเข้า ทำให้ Passion score ของพนักงานสมิติเวชสูงถึง 89%
• Retain มองคนให้รู้ว่าเป็นบวก ลบ คูณ หรือหาร มีการบริหารจัดการต่างกัน การประเมิณคูณและบวก (เกรด A-B) จะได้รับการตอบแทนอย่างสาสม ลบและหาร (เกรด D-E) จะได้รับการตอบแทนอย่างสาหัส องค์กรจะมีแต่คนทำงานจริงๆ ทำให้ Engagement score ของพนักงานสมิติเวชสูงถึง 88% ซึ่งค่าเฉลี่ยของประเทศไทยในปี 2022 อยู่ที่ 71% และ Thailand Best Employer ประมาณ 85%
• Develop ไม่ใช่ Develop เหมือนกันไปหมด แต่ต้อง Dynamicตาม Trend ตลอดเวลา

ต้องหาคนที่พร้อมเปลี่ยน ทำสิ่งที่เปลี่ยนเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่เปลี่ยน แต่ต้อง Reskill
ส่วนคนไม่พร้อมเปลี่ยน ทำสิ่งที่ไม่เปลี่ยนเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ยังไม่เปลี่ยน แต่ต้อง Upskill เช่น การบริการ ซึ่งทำให้ลูกค้าพึงพอใจเราอย่างมาก ทำให้คะแนน Emphatic score สูงถึง 99.8%

อีกส่วนหนึ่งที่ นพ.ชัยรัตน์ กล่าวกับเจ้าหน้าที่ขององค์กรเสมอก็คือ ให้ยืนหน้ากระจกแล้วถามตัวเองว่า
งานที่ทำอยู่นั้น เป็นงานเพื่ออนาคตหรือไม่
งานที่ทำอยู่นั้น ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายในชีวิตหรือไม่
งานที่ทำอยู่นั้น ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายขององค์กรหรือไม่
งานที่ทำอยู่นั้น มีความสุขควบคู่กับความสำเร็จหรือไม่

การมัวแก้ปัญหาในอดีต แสดงว่า ท่านหรือองค์กรท่านกำลังถอยหลัง 
การเห็นปัญหาในปัจจุบัน แสดงว่าท่านหรือองค์กรท่านกำลังเริ่มเดิน
เท่าทันปัญหาในอนาคตได้ แสดงว่า ท่านหรือองค์กรท่านกำลังเริ่มวิ่ง 
หากจะให้วิ่งและแรงได้ ต้องสามารถ “ควบคุมปัญหา” ไม่ให้เกิด 
ทำเรื่องที่ “ ควบคุมได้” ก่อน แล้วจึงเปลี่ยนเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ให้เป็น “ควบคุมได้”
อยากเก่งเรื่องอะไร ก็ให้ฝึกเรื่องนั้นๆจนชำนาญ 
ไม่ลองทำ ไม่ลองฝึก ไม่มีทางเก่งได้ 
ดังนั้น จึงต้อง Disrupt ตัวเองก่อนจะถูก Disrupt ถึงจะอยู่ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้

สำหรับการบริหารทีม 
ขนมปัง 1 ชิ้นก็สามารถควบคุมปลาทุกสายพันธุ์ที่มีอุปนิสัยต่างกันให้เดินทางไปยังทิศที่ต้องการได้ อยู่ที่ว่าจะโยนไปในทิศทางใดเท่านั้น 
ทุกความต้องการขององค์กรต่อผู้คน ต้องอยู่ที่ว่าทำแล้วเกิดประโยชน์กับผู้คนอย่างไรเสมอ
ทำแล้วได้อะไร นั่นคือการกระตุ้นความอยาก
หากไม่ทำแล้วจะเกิดผลเสียอะไร นั่นคือการกระตุ้นความกลัว
ความอยากและความกลัวก็เป็นอีกวิถีหนึ่ง ที่ช่วยนำพาผู้คนให้ไปในทิศทางเดียวกันได้

ต้องทำอย่างไร ให้ผู้คนที่ทำงานร่วมกันมีชีวิตที่ดีกว่าเก่า
ต้องทำอย่างไรให้ผู้คนที่ทำงานร่วมกันมีความสุข

“ผู้ให้บริการที่มีความสุขเท่านั้น จึงสามารถทำให้ผู้รับบริการมีความสุขได้ และเมื่อผู้รับบริการมีความสุข ความสำเร็จขององค์กรจึงจะตามมา”

ขอขอบคุณ สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย สำหรับรางวัล People Management Award2022 เราคิดและทำนอกตำรามา 8  ปี มีการคิดสิ่งใหม่ๆอยู่ตลอด เป้าหมายคือทำให้ชีวิตผู้รับบริการ พนักงาน แพทย์ คู่ค้า ชุมชน ดีกว่าเก่า สร้าง Ecosystem ดูแลผู้คน และนำพาองค์กรไปสู่ความยั่งยืน (Sustainability)สอดรับตามบริบทของเรา