จัดห้องนอนลูก ป้องกันโรคภูมิแพ้

จัดห้องนอนลูก ป้องกันโรคภูมิแพ้

HIGHLIGHTS:

  • ถ้าพ่อหรือแม่เป็นโรคภูมิแพ้จะทำให้ลูกมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ประมาณร้อยละ 30-50 แต่ถ้าทั้งพ่อและแม่เป็นโรคภูมิแพ้จะมีผลให้ลูกมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้มากถึงร้อยละ 50-70
  • การจัดห้องนอนทารกเพื่อป้องกันโรคภูมิแพ้ ควรเป็นห้องโปร่ง สะอาด มีของเท่าที่จำเป็น ที่นอน หมอน ควรใช้ชนิดใยสังเคราะห์ ไม่ใช้นุ่น

เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่าน อาจกำลังเจอปัญหาลูกเป็นโรคภูมิแพ้ ไม่ว่าจะเป็นแพ้ฝุ่น แพ้ขนสัตว์ แพ้เกสรดอกไม้ อย่างแรกคุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจและรู้จักกับโรคภูมิแพ้เสียก่อน และหลังจากนั้นก็ต้องหาทางป้องกัน กำจัดตัวการของโรคภูมิแพ้ออกไปให้ไกลจากลูก ๆ ซึ่งการจัดบ้านให้ถูกต้องก็เป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยได้

โรคภูมิแพ้คืออะไร ?

โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่เกิดจากร่างกายของเราที่มีปฏิกิริยาตอบโต้ต่อสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เช่น ไรฝุ่น รังแคของสุนัขและแมว แมลงสาบ เกสรดอกหญ้า โดยจะมีอาการแสดงมากขึ้นในบุคคลที่มีพันธุกรรมต่อการเกิดภูมิแพ้ เช่น มีพ่อ แม่ พี่ น้อง เป็นโรคภูมิแพ้ ทำให้แสดงอาการแพ้ออกมาทางระบบอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย
สาเหตุของโรคภูมิแพ้

  • พันธุกรรม โรคภูมิแพ้หลายโรค จะเกิดขึ้นได้ง่ายถ้ามีพันธุกรรม เช่น โรคหืด โรคแพ้อากาศ และผื่นภูมิแพ้ในเด็กยิ่งถ้ามีประวัติว่าทั้งพ่อและแม่เป็น จะยิ่งมีโอกาสมากกว่าพ่อหรือแม่เป็นฝ่ายเดียว อธิบายง่าย ๆ คือถ้าพ่อหรือแม่เป็นโรคภูมิแพ้จะทำให้ลูกมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ประมาณร้อยละ 30-50 แต่ถ้าทั้งพ่อและแม่เป็นโรคภูมิแพ้จะมีผลให้ลูกมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้นถึงร้อยละ 50-70 ในขณะที่เด็กที่มาจากครอบครัวที่ไม่มีประวัติโรคภูมิแพ้เลยมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้เพียงร้อยละ 10 เท่านั้น
  • สิ่งแวดล้อม เป็นปัจจัยที่สำคัญมาก เพราะสารก่อภูมิแพ้ที่จะเข้าสู่ร่างกายเราเกิดจากสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น ไม่ว่าสารก่อภูมิแพ้ที่เข้าร่างกายโดยการหายใจ การรับประทาน หรือการสัมผัส

อาการอย่างไร จึงสงสัยว่าเป็นโรคภูมิแพ้

ระบบการหายใจ ตั้งแต่จาม คันจมูก น้ำมูกไหล คัดจมูก คันตา คันคอ หรือไอเรื้อรังมีเสมหะ มีอาการหอบเหนื่อย หายใจเสียงดังวี้ดๆ อาการดังกล่าวอาจเป็นๆ หายๆ อาจมีอาการเป็นไปตามฤดูกาล หรือเป็นตลอดเกือบทั้งปี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและสาเหตุ

ระบบผิวหนัง อาจแสดงเป็นลมพิษ ผื่นคันตามข้อพับ ในเด็กอาจมีผื่นแดงบริเวณแก้ม

ระบบทางเดินอาหาร ตั้งแต่คลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระร่วง ปวดท้อง ถ่ายเป็นมูกเลือด
แสดงอาการทุกระบบ ในคนไข้ที่แพ้รุนแรง อาจมีทั้งอาการหอบ หายใจลำบาก ลมพิษขึ้น ช็อคหรืออาจเสียชีวิต

การรักษาโรคภูมิแพ้

  • หลีกเลี่ยงจากสารที่แพ้ (ถ้าเราทราบว่าแพ้สารอะไร) หากทราบว่าแพ้สารอะไร ก็พยายามหลีกเลี่ยงสารนั้นให้มากที่สุด เมื่อสารก่อภูมิแพ้ไม่เข้าร่างกายก็จะไม่มีอาการ
  • การใช้ยาเฉพาะโรค การใช้ยามักเป็นการควบคุมอาการไม่ให้เกิดขึ้น
  • การฉีดวัคซีนภูมิแพ้ ถ้าผู้ป่วยมีอาการมากใช้ยาแล้วไม่ดีขึ้นอาจต้องเสริมภูมิด้วยการฉีดวัคซีนภูมิแพ้ ก็คือการฉีดสารสกัดจากสิ่งที่ผู้ป่วยแพ้เข้าร่างกายครั้งละน้อยๆ ค่อยๆ เพิ่มจำนวนจนถึงระดับที่ควบคุมอาการได้ การรักษาแบบนี้ กินเวลานานอาจใช้เวลา 3-6 ปี ซึ่งทำให้อาการต่างๆ ลดน้อยลง

การจัดห้องนอนทารก ป้องกันโรคภูมิแพ้

  • ควรเป็นห้องโปร่ง สะอาด มีของเท่าที่จำเป็น
  • ที่นอน หมอน ควรใช้ชนิดใยสังเคราะห์ หลีกเลี่ยงเครื่องนอนที่ใช้นุ่นเป็นส่วนประกอบ
  • ไม่ควรมีตุ๊กตาที่มีขน พรม หรือหนังสือในห้องนอน
  • ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนควรซักบ่อยๆ ถ้าเป็นไปได้ควรซักในน้ำร้อน
  • เช็ด ถู ทำความสะอาดเป็นประจำ และควรเปิดให้อากาศถ่ายเทและแสงแดดเข้าได้

นอกจากนี้ ไม่ควรมีผู้สูบบุหรี่ในบ้าน ให้หลีกเลี่ยงควัน สิ่งระคายทางระบบหายใจให้มากที่สุด รวมถึงพยายามหลีกเลี่ยงการติดเชื้อระบบการหายใจ เช่น หลีกเลี่ยงการพาลูกไปอยู่ในที่แออัดหรือสถานที่คับแคบที่ไม่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี เพราะเชื้อไวรัสบางอย่างอาจมีผลทำให้เด็กมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้นหรือมีอาการมากขึ้น

คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?