7 สีปัสสาวะบอกสุขภาพ

7 สีปัสสาวะบอกสุขภาพ

HIGHLIGHTS:

  • หากปัสสาวะมีสีแดงเข้มอาจเกิดจากการติดเชื้อ หรือนิ่วในไต ท่อไต หรือกระเพาะปัสสาวะ
  • ปัสสาวะที่มีสีน้ำตาลคล้ายชาเกิดจากการสลายตัวของกล้ามเนื้อที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์หรือเสพยาเสพติด
  • นอกจากสีแล้ว ความขุ่นใส ปัสสาวะเป็นฟอง หรือกลิ่นที่เปลี่ยนไปก็บอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายเช่นกัน ดังนั้นหากสังเกตเห็นปัสสาวะเปลี่ยนไป ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย หากพบความผิดปกติจะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เราเห็นปัสสาวะของเราทุกวัน แต่คงไม่มีใครสนใจหรือสังเกตจริงจัง จนกว่าจะเห็นสิ่งผิดปกติ ซึ่งความเปลี่ยนแปลงทั้งสีหรือกลิ่น อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ามีสิ่งแปลกปลอมหรืออันตรายซ่อนอยู่ภายในร่างกาย

1. สีเหลือง

ปกติปัสสาวะมักเป็นสีเหลืองใส ขึ้นอยู่กับอาหารและปริมาณน้ำที่ดื่ม หากดื่มน้ำน้อย ปัสสาวะจะมีสีเข้มขึ้น ดังนั้นหากพบว่าปัสสาวะสีเหลืองเข้ม ควรดื่มน้ำให้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน หรือหลังออกกำลังกาย โดยดื่มจนกว่าปัสสาวะจะมีสีอ่อนลง  ในทางกลับกันหากปัสสาวะใสเหมือนน้ำอาจหมายถึงการดื่มน้ำมากเกินไป จนเกลือแร่ในร่างกายเจือจาง สิ่งที่ดีที่สุดคือดื่มให้พอดี และหมั่นสังเกตปัสสาวะเสมอ

2. สีแดง

ปัสสาวะสีแดงนอกจากจะเกิดจากการรับประทานอาหารบางชนิด เช่น บีทรูท กระเจี๊ยบแดง หรืออาจเกิดจากการมีเลือดปน  ซึ่งเป็นได้ตั้งแต่สีแดงจางๆ ไปจนถึงแดงเข้มขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้น เลือดที่ปนในปัสสาวะอาจเกิดจากการติดเชื้อ หรือนิ่วในไต ท่อไต หรือกระเพาะปัสสาวะ รวมถึงเนื้องอกที่ไม่อันตรายไปจนถึงมะเร็งในไต กระเพาะปัสสาวะ หรือท่อปัสสาวะ ซึ่งพบได้บ่อยในผู้สูงอายุทั้งหญิงและชาย แต่ก็อาจพบในผู้มีอายุน้อยที่สูบบุหรี่จัด  บ่อยครั้งที่พบว่าปัสสาวะมีเลือดปนเนื่องจากมีเนื้องอกหรือมะเร็งมักไม่มีอาการหรือความเจ็บปวดใดๆ

นอกจากนี้การขยายตัวของต่อมลูกหมากที่ไม่เป็นมะเร็งในผู้ชายก็สามารถทำให้มีเลือดปนในปัสสาวะเช่นกัน ดังนั้นหากพบว่ามีเลือดปนในปัสสาวะติดต่อกันหลายวัน หรือมีเลือดออกมากจนปัสสาวะเป็นสีแดงเข้ม ควรรีบพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

3. สีม่วง

แม้ปัสสาวะสีม่วงจะหายาก แต่ก็พบได้ในถุงระบายน้ำปัสสาวะของผู้ป่วยสูงอายุที่ใส่ท่อสวนปัสสาวะ ซึ่งปัสสาวะสีม่วงเกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่างแบคทีเรียกับถุงระบายน้ำปัสสาวะที่เป็นพลาสติก

4. สีน้ำตาล

ปัสสาวะสีน้ำตาลคล้ายชาเกิดจากการสลายตัวของกล้ามเนื้อที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์หรือเสพยาเสพติด ทั้งนี้ยังอาจเกิดจากปัญหาตับอักเสบ มีระดับบิลิรูบิน  (bilirubin) สูง จนขับออกทางปัสสาวะ หากพบว่ามีปัสสาวะสีน้ำตาลหรือสีชาควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจร่างกายโดยด่วน

5. สีขาวขุ่น

ปัสสาวะสีขาวขุ่นจนเห็นได้ชัด อาจเกิดจากมีหนองปน ส่วนใหญ่มักเกิดในผู้ป่วยที่ใส่สายสวนปัสสาวะทิ้งไว้เป็นเวลานาน หรือมีน้ำเหลืองในปัสสาวะ

6. สีส้ม

ปัสสาวะสีส้มอาจเกิดจากการรับประทานวิตามินหรือยาบางชนิด โดยเฉพาะยาที่ใช้รักษาการติดเชื้อต่างๆ

7. สีฟ้าหรือสีเขียว

ปัสสาวะสีฟ้าหรือเขียวส่วนใหญ่มักมาจากยาที่ช่วยลดการระคายเคืองจากการติดเชื้อหรือการรักษาภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบ  รวมถึงการได้รับยาชาบางชนิด นอกจากนี้การรับประทานหน่อไม้ฝรั่งอาจทำให้ปัสสาวะมีสีเขียวอ่อนได้

นอกจากสีแล้ว ความขุ่นใส ปัสสาวะเป็นฟอง หรือกลิ่นที่เปลี่ยนไปก็บอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายเช่นกัน ดังนั้นหากสังเกตเห็นปัสสาวะเปลี่ยนไป ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย การค้นพบโรคร้ายแรงบางชนิดตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?