ภาวะมีลูกยาก: IVM ปลอดภัย…ใกล้เคียงธรรมชาติ

ภาวะมีลูกยาก: IVM ปลอดภัย…ใกล้เคียงธรรมชาติ

เมื่อไม่สามารถตั้งครรภ์ด้วยวิธีธรรมชาติได้ คุณพ่อคุณแม่หลายคู่จึงแสวงหาความหวังจากนวัตกรรมทางการแพทย์ เช่น การทำอิ๊กซี่ การทำเด็กหลอดแก้ว หรือการทำ IVF (In Vitro Fertilization) หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะคุณแม่เกิดอาการแพ้ฮอร์โมนอย่างรุนแรง หรือร่างกายของคุณแม่ไม่สามารถผลิตไข่ที่สมบูรณ์ได้  

เราขอแนะนำกระบวนการ ไอวีเอ็ม (IVM) นวัตกรรมใหม่ที่มีความเป็นธรรมชาติและปลอดภัยมากที่สุด ทั้งยังประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย เพื่อการเริ่มต้นเติมเต็มครอบครัวอันแสนอบอุ่นของคุณ

IVM คือ อะไร?

ทีมแพทย์โรงพยาบาลสมิติเวชทุ่มเทศึกษาและคิดค้นวิธีการเพื่อเพิ่มความสำเร็จในการตั้งครรภ์ เข้าร่วมประชุมและอบรมทางการแพทย์ที่ประเทศแคนาดา ตลอดจนศึกษากระบวนการ IVM มากกว่าหนึ่งปีจนพบว่า กระบวนการ IVM มีความใกล้เคียงกับวิธีธรรมชาติและปลอดภัยมากที่สุด อัตราการตั้งครรภ์จากกระบวนการ IVM หรือ In Vitro Maturation สูงถึง 30-35 % โดยคุณแม่ไม่ต้องได้รับฮอร์โมนซึ่งก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนน

ในขณะที่กระบวนการ IVF ต้องอาศัยการกระตุ้นฮอร์โมนเพื่อให้ไข่เจริญเต็มที่ แต่กระบวนการ IVM นำไข่ออกจากรังไข่ตั้งแต่ระยะแรกที่ไข่ยังไม่สมบูรณ์ ไข่จะถูกนำมาเลี้ยงด้วยสภาพแวดล้อมเหมาะสมในห้องปฏิบัติการเป็นเวลา 24 – 48 ชั่วโมง เมื่อไข่โตจนสมบูรณ์เต็มที่แล้วก็จะทำการผสมกับเชื้ออสุจิจนเกิดการปฏิสนธิตัวอ่อนที่สมบูรณ์ หลังจากนั้นตัวอ่อนก็จะถูกย้ายเข้าไปฝังในโพรงมดลูกของคุณแม่เพื่อให้เจริญเติบโตต่อไป จะเห็นได้ว่า IVM นั้นคุณแม่ไม่ต้องได้รับฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นไข่ ช่วยให้คุณแม่ไม่ต้องเผชิญกับการแพ้ฮอร์โมนซึ่งเป็นอาการแทรกซ้อนสำคัญของ IVF

IVM เหมาะสำหรับใคร?

IVM เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ที่มีลูกยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:

  • คุณแม่ผู้เป็น Polycystic Ovarian Syndrome (PCOS) หรือภาวะมีถุงไข่ขนาดเล็กในรังไข่มากกว่าปกติ โดยธรรมชาติแล้วผู้หญิงควรจะมีถุงไข่ข้างละ 4-5 ถุง แต่การกระตุ้นฮอร์โมนอาจเป็นเหตุให้จำนวนถุงไข่เพิ่มมากขึ้นจนกระทั่งเกิดเส้นเลือดรั่ว เป็นโรคบวมน้ำ น้ำท่วมในปอดได้ เป็นต้น
  • คุณแม่ผู้เป็น Ovarian Hyperstimulation Syndrome (OHSS)  หรือภาวะการกระตุ้นรังไข่เกิน ซึ่งภาวะนี้เกิดได้จากการกระตุ้นฮอร์โมนในการรักษา IVF เป็นส่วนมาก คุณแม่ผู้แพ้ฮอร์โมนอาจมีอาการหายใจลำบาก คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องรุนแรง น้ำหนักลด รังไข่บวม และมีอาการเจ็บที่รังไข่ เป็นต้น
  • ภาวะการมีลูกยากที่เกิดจากปัญหาด้านร่างกายหรือสุขภาพของคุณพ่อ
  • คนไข้โรคมะเร็งที่ต้องการมีลูก

IVM มีข้อดีอย่างไร?

IVM มีข้อดีหลายประการ โดยประการหลัก ๆ มีดังต่อไปนี้:

  • มีความปลอดภัยสูงและลดความเสี่ยงในคุณแม่เพราะไม่จำเป็นต้องมีการกระตุ้นฮอร์โมน คุณแม่ไม่ต้องเจ็บตัวหรือประสบภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการฉีดฮอร์โมนเหมือนในกระบวนการทำ IVF
  • ไม่มีความเสี่ยงต่อการพึ่งพาฮอร์โมนในระยะยาว ซึ่งอาจนำไปสู่โรคมะเร็งเต้านมหรือโรคมะเร็งในรังไข่
  • กระบวนการ IVM ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่ากระบวนการ IVF ถึง 30 เปอร์เซ็นต์
  • หลังจากการทำ IVM คุณแม่สามารถกลับบ้านได้ทันที
  • มีความใกล้เคียงธรรมชาติมากกว่าการรักษาด้วยวิธีอื่น โดยไข่ที่นำออกมาสามารถเก็บรักษาไว้ในห้องปฏิบัติการสำหรับกรณีที่คุณพ่อคุณแม่อยากมีลูกเพิ่มอีกในอนาคต
  • เป็นการประหยัดเวลาเพราะ IVM เป็นเทคโนโลยีที่สามารถทำใหม่ได้ในเวลาอันสั้น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องรอนานเหมือนการทำ IVF หากการรักษาไม่ประสบความสำเร็จในครั้งแรก
  • การรักษาและผสมตัวอ่อนเกิดขึ้นภายในห้องปฎิบัติการผสมเทียม (Embryology Laboratory) อันทันสมัยในศูนย์ Critical Care Complex ของโรงพยาบาลสมิติเวช  ห้องปฏิบัติการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมให้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุดสำหรับตัวอ่อน เพื่อเพิ่มความสำเร็จในการตั้งครรภ์ห้องปฎิบัติการเต็มไปด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์อันล้ำสมัย เช่น ระบบควบคุมไฟแบบไม่เรืองแสง ระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้น ระบบกรองอากาศ HEPA Filters (High-efficiency particulate air filter) เป็นต้น เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับห้องปฎิบัติการของเราได้ที่นี่ 

โรงพยาบาลสมิติเวชให้ความสำคัญต่อสถาบันครอบครัวเป็นที่สุด เราต้องการเห็นทุกครอบครัวเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขสมหวัง ดังนั้นด้วยเทคโนโลยี IVM และฝีมือของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรา ความหวังที่จะมีลูกของคู่พ่อแม่ทั้งหลายจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม

Photo Credit: phalinn via Compfight cc

คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?